ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและจากฝีมือมนุษย์ทำให้ประชากรสัตว์ทะเลลดลง กระทบต่อวิถีชีวิตชาวประมงในพื้นที่ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลายรายจำต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

เช่นเดียวกับ นายสมศักดิ์ ศรีสังข์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209 หมู่3 ต.เจ๊ะเห ที่ออกเรือหาเลี้ยงครอบครัวมาทั้งชีวิต โดยเฉพาะปูดำ จากเดิมมีให้จับจำนวนมากและตัวใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้มีแต่ปูตัวเล็ก ขายไม่ได้ราคา

ด้วยความเป็นชาวเลยุคใหม่ที่สนใจเทคโนโลยีโลกโซเชียล พยายามค้นคว้าหาข้อมูลถึงวิธีการเพาะเลี้ยงปูนิ่มจากแหล่งต่างๆจนมั่นใจว่าทฤษฎีแน่นพอ จึงเริ่มทดลองเลี้ยงรุ่นแรกเมื่อ 3 ปีก่อน

ใช้พื้นที่ตรงข้ามบ้านติดกับแม่น้ำตากใบที่มีน้ำกร่อยไหลผ่าน เนื้อที่ประมาณ 1 งาน เป็นบ่อทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสั่งซื้อตะกร้าทรงสี่เหลี่ยมมาใช้เลี้ยงปูนิ่มราคาใบละ 25 บาท แล้วใช้ท่อพีวีซี 2 นิ้ว ปิดหัวท้ายต่อเป็นแพยาว10เมตร ให้มีขนาดพอเหมาะสำหรับใส่ตะกร้า

ส่วนปูที่เลี้ยงก็เป็นปูดำจากธรรมชาติที่ออกเรือไปจับในแต่ละวัน เลือกเอาเฉพาะเพศผู้และกะเทยนำมาเลี้ยงในตะกร้าที่เตรียมไว้ ส่วนเพศเมียที่มีขนาดเล็กจะปล่อยคืนสู่ท้องทะเล เป็นการช่วยอนุรักษ์ให้ปูขยายพันธุ์ต่อไป

ช่วงระยะเวลาเลี้ยงคือ เดือน ม.ค.ถึง พ.ย.เท่านั้น หากเลยกำหนดเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำจืดจะไหลผ่าน ทำให้ปูนิ่มที่เลี้ยงไว้ตายหมด

อาหารที่ใช้เป็นพวกลูกปลาเล็กปลาน้อยที่จับได้ในทะเลหรือหาซื้อตามท้องตลาดมาใส่ในตะกร้าให้ปูนิ่มกิน ใช้เวลาราว 20 วัน หรือไม่เกิน1เดือน หากเราดูแลเอาใจใส่ดีๆปูก็จะลอกคราบเร็ว

เคล็ดลับสำคัญในการเลี้ยงปูนิ่มต้องคอยสังเกตปูช่วงลอกคราบ หากลอกคราบแล้วแต่จับไม่ทัน ปูจะสร้างกระดองขึ้นมาใหม่แทนกระดองเดิม ต้องเสียเวลาเลี้ยงและค่าใช้จ่ายอีกเท่าเดิม ปูถึงกลับมาลอกคราบอีกครั้ง

...

ตัวไหนลอกคราบก็จะจับออกมาใส่ในน้ำจืด 15 นาที เพื่อให้ปูคายน้ำเค็ม ก่อนนำปูนิ่มแต่ละตัวแพ็กใส่กล่องเข้าตู้เย็นหรือฟรีซแช่แข็งไว้ เพื่อรอจำหน่ายในราคา กก.ละ 380 บาท โดยมีออเดอร์สั่งซื้อมาเรื่อยๆ

ถือเป็นรายได้เสริมที่ให้ผลตอบแทนอย่างน่าพอใจ.

ณรงค์ นวลสกุล/รายงาน