ชาวบ้านเก็บ "สาหร่ายขนนก" ที่มาเกาะกระชังปลาเจริญเติบโต โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เป็นรายได้เสริมช่วงหน้าแล้งปีละกว่า 1 แสนบาท


วันที่ 21 มีนาคม 2565 นายไสว ดังเด่น อายุ 52 ปี ชาวบ้านที่เลี้ยงปลาในกระชังบริเวณบ้านทุ่งสะโบะ ม.5 ต.ทุ่งบุหลัง กล่าวว่า ต.ทุ่งบุหลัง เป็นพื้นที่ติดทะเล ตามลำคลองชาวบ้านมักจะเลี้ยงปลาในกระชังเป็นอาชีพเสริม ทั้งปลากะพง ปลาเก๋า เพื่อเป็นทางเลือกในช่วงมรสุมที่ไม่สามารถออกทะเลได้และในช่วงหน้าแล้งของทุกปี

โดยกระชังที่เลี้ยงไว้จะมี "สาหร่ายขนนก" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "สายหรือลาโต๊ด" มาเกาะเป็นจำนวนมาก สาหร่ายชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ในน้ำที่เค็มจัดแต่สะอาดและไหลถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา และจะสลายหายไปเองในช่วงที่มีฝนตกหนัก

ทั้งนี้ สาหร่ายจะเริ่มมาเกาะตั้งแต่เดือนธันวาคมและจะเริ่มเจริญเติบโตและเก็บกินได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนพฤษภาคม ของทุกปี เมื่อฝนตกสาหร่ายก็จะหายไป วนเวียนอยู่เช่นนี้โดยสาหร่ายจะใช้แสงแดดสังเคราะห์แสงและจะเกาะอยู่บริเวณด้านข้างกระชังปลา ทำให้ชาวบ้านสามารถเก็บขายได้ง่าย

...

สำหรับราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งราคาของสาหร่ายนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่เก็บด้วยหากเป็นสาหร่ายตามธรรมชาติที่อยู่ตามคลองหรือกระชังปลาก็จะมีราคาค่อนข้างถูก แต่หากเป็นสาหร่ายเลี้ยงราคาบางช่วงอาจแพงถึงกิโลกรัมละ 200 บาทเลยทีเดียว

ข้อดีของสาหร่ายตามกระชังนั้น จะไม่มีทรายเกาะให้เสียอารมณ์เวลากินถูกทราย เพียงแค่ล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่น้ำแข็งสาหร่ายจะมีความกรุบกริบ นิยมกินคู่กับน้ำพริกถั่ว งานแต่งในช่วงหน้าแล้งจะต้องมีเมนูสาหร่ายร่วมอยู่ด้วย บางงานมาสั่งกว่า 100 กิโลกรัม โดยในแต่ละปีสาหร่ายนี้สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไม่ต่ำกว่าปีละ 1 แสนบาท เป็นรายได้เสริมที่ได้มาฟรีๆ โดยไม่ต้องลงทุน เพียงแค่ช่วยกันรักษาความสะอาดในแม่น้ำลำคลองและรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดี และมีความขยันก็มีรายได้แล้ว.