มทภ.4 มองเหตุป่วนบึม จ.นราธิวาส 3 จุด เชื่อฝีมือกลุ่มเดิมๆ ทำเมื่อมี เป้าหมายชัด โอกาสมี ทางหนีพร้อม และมั่นใจว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุยังหลบซ่อนอยู่บนป่าเขา โดยทหารจะติดตามเพื่อบังคับใช้กฎหมาย

ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส โดยเฉพาะที่ บ้านไอร์กาแซ ม.6 ตำบลศรีสาคร ที่เกิดเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ใต้ผิวถนน ในขณะที่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร แล่นผ่านทำให้ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ส่วนรถยนต์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (1 ก.พ. 64) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 ได้กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เพราะยังมีความพยายามในการก่อเหตุของผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และในห้วงที่ผ่านมาก็ได้มีการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการพิสูจน์ทราบบนป่าเขา ที่อำเภอจะแนะ และศรีสาคร ซึ่งเป็นปฏิบัติการเชิงรุกที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นก็ต้องมาทบทวนว่ามีข้อบกพร่องและจุดอ่อนอย่างไร ที่จะต้องมีวิธีการปฏิบัติที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามก็จะมีวิธีการก่อเหตุที่เปลี่ยนแปลงมาตลอดเช่นกัน

ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มพูโล ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุนั้น ตนเองไม่ได้บอกว่าเป็นกลุ่มพูโล เพียงบอกว่า เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่สร้างสถานการณ์เท่านั้น

"เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็ได้มีการวิเคราะห์กันถึงความเชื่อมโยงของหลายๆ เหตุการณ์ นอกจากการที่ได้เปิดปฏิบัติการเชิงรุก ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องเปิดพื้นที่เพื่อที่จะมีช่องว่างในการเคลื่อนไหว เพราะเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นการแขวนป้ายผ้า การก่อกวนต่างๆ ทำให้เกิดการหันเห ส่วนเหตุเผาป้อม ชรบ.ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ก็คงจะเป็นการสั่งการครั้งเดียวของแกนนำ คือลักษณะของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะมี 3 ลักษณะคือ เป้าหมายชัด โอกาสมี ทางหนีพร้อม กลุ่มนี้จะเลือกปฏิบัติเช่นนี้ ซึ่งในพื้นที่ศรีสาคร มีอยู่ 2 กลุ่ม ที่กำลังแกะรอย หลบซ่อนอยู่บนป่าเขา ที่เป็นกลุ่มเดิม ที่กำลังติดตามเพื่อบังคับใช้กฎหมาย" มทภ.4 กล่าว

...

สำหรับในพื้นที่จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองยังคงคุมเข้มทุกพื้นที่ เพื่อไม่ให้เป็นช่องว่าง ให้กับกลุ่มก่อเหตุรุนแรง เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ได้ มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เส้นทางเข้าออกตัวเมืองยะลา เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้.