นักท่องเที่ยวแห่มาอ่าวนาง แห่ชมประติมากรรม "ยายสา" หลังทราบข่าวจะถูกรื้อ ด้านเทศบาลฯ แจงยังไม่รื้อ แต่จะขอใช้พื้นที่ต่ออีก 1 ปี ชงเสนอ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ หากเห็นชอบจะให้คงไว้ เพราะคนสนใจมาก

จากกรณี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี สั่งการให้เทศบาลเมืองกระบี่ รื้อผลงานศิลปะ "ยายสา" ออกจากหาดอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ หลังหมดเวลาตามที่ขออนุญาตใช้พื้นที่ไว้ ทำให้เกิดกระแสไม่เห็นด้วย และรู้สึกเสียดายหากผลงานดังกล่าวถูกรื้อออก เพราะรูปปั้น "ยายสา" กำลังได้รับความสนใจจาก นทท.ชาวไทย ที่อยากเดินทางมาชม เพราะเกิดกระแสในโลกโซเชียล

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.64 บรรยากาศบริเวณหาดอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ยังคงมีประชาชน และ นักท่องเที่ยวทั้งใน จ.กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาเยี่ยมชมผลงานศิลปะ "ยายสา" อย่างต่อเนื่อง หลังทราบข่าวว่าจะมีการรื้อรูปปั้น "ยายสา" ออกจากจุดแสดงที่หาดอ่าวนาง โดย นทท.ที่มาเที่ยวชมส่วนใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า ชาวบ้านในพื้นที่หาดอ่าวนาง ต่างเสียดายไม่อยากให้มีการรื้อผลงานศิลปะแนวประติมากรรม "ยายสา" ออกไปจากจุดดังกล่าว เพราะประติมากรรมดังกล่าว กำลังเป็นที่โด่งดังในโลกโซเชียล ทำให้ผู้คนจากหลายจังหวัด อยากเดินทางมาเที่ยวชม ซึ่งส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของหาดอ่าวนาง และทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ มีรายได้จากการใช้บริการต่างๆ ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วยภาวะเศรษฐกิจซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19

...

น.ส.กัญญารัตน์ บัวเพชร อายุ 17 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวชม กล่าวว่า หลังติดตามข่าวว่าจะมีการรื้อ "ยายสา" ออกไป ตนก็รีบเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว เพื่อมาเยี่ยมชม "ยายสา" สักครั้ง โดยส่วนตัวรู้สึกเสียดาย อยากให้เอาไว้จุดเดิม ไม่อยากให้เคลื่อนย้ายออกไป เนื่องจากยังมีประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ทราบข่าว ยังไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชม พร้อมฝากถึง นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวช่วยกันดูแลความสะอาดด้วยเช่นกัน


ขณะที่ นางจินดา หนองทะเล หรือยายศรี อายุ 86 ปี ชาวบ้านดั้งเดิมของหาดอ่าวนาง เผยเรื่องราว "ยายสา" ให้ฟังว่า เรื่องของยายสา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในอดีต เมื่อประมาณ 30-40 ปีก่อน เดิม "ยายสา" มีที่พักเป็นกระท่อม อาศัยอยู่กับสามีบนเนินเขาด้านหลังจุดแสดงศิลปะ โดยสามียึดอาชีพทำประมงมีเรือออกหาปลาทุกวัน ทุกวัน "ยายสา" จะออกมาส่งสามีเพื่อออกทะเลหาปลา ซึ่งก่อนที่สามีจะออกทะเลจะบอกให้ "ยายสา" รออยู่จุดที่ออกมาส่งสามี คือแหลมหินริมเขาบริเวณที่จัดตั้งศิลปะ อยู่มาวันหนึ่งสามียายสา ประสบอุบัติเหตุเรือเจอคลื่นลมแรง จนเรือล่มเสียชีวิตกลางทะเล "ยายสา" ก็เฝ้ารออยู่แหลมหินจุดเดิมตามสัญญาที่ให้ไว้กับสามี ข้าวปลาไม่ได้กิน แล้วเกิดอาการเป็นลมวูบตกลงไปในทะเลเสียชีวิต จนต่อมา เรื่องราวดังกล่าว มีการเล่าขานต่อๆ กันมา จนศิลปินนำไปสร้างเป็นผลงานศิลปะ "ยายสา" จนโด่งดังในปัจจุบัน

ส่วน นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวถึงประติมากรรมยายสาว่า ยอมรับก่อนนี้ประติมากรรม "ยายสา"ซึ่งจัดแสดงมาตั้งแต่ปี 2018 ไม่ได้รับความสนใจจากผู้คน แต่เมื่อมี นทท.นำเรื่องนี้ไปโพสต์ผ่านทางติ๊กต๊อก ทำให้ผู้คนให้ความสนใจเป็นล้านคน ส่วนใหญ่อยากจะเดินทางมาชมผลงานประติมากรรมดังกล่าว ต่อมาประมาณเดือน ก.ค.63 ที่ผ่านมา ทางกรมอุทยานฯ ประสานมาให้ย้ายงานประติมากรรม "ยายสา" ออกไปจากพื้นที่ เพราะอยู่ในเขตอุทยานฯ และระยะเวลาการติดตั้งผลงานก็เลยกำหนดที่ขออนุญาตไว้

...

นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวต่อว่า ตนจึงประสานไปยังนายคามิน เลิศชัยประเสริฐ เจ้าของผลงานว่า หากทางเทศบาลจะย้ายผลงาน "ยายสา" จะมีความเห็นอย่างไร ทางนายคามิน ก็ไม่เห็นด้วย และบอกว่าหากจะย้ายก็ขอให้ทำลายทิ้งไปเลยดีกว่า เรื่องดังกล่าวจึงเงียบไป กระทั่งมาเกิดกระแสความสนใจขึ้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นผลงานผ่านทางแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกนับล้านคน ทำให้มีผู้สนใจอยากเดินทางมาเที่ยวชม

นายกีรติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดกระแสความสนใจ ทางอุทยานฯ ก็แจ้งมาให้ทำการรื้อถอน แต่โดยส่วนตัวตนมองว่าการมีประติมากรรมดังกล่าวอยู่ เป็นเรื่องดี เพราะกระตุ้นการท่องเที่ยวให้พื้นที่ ตนจึงหารือกับทางผู้ใหญ่ในจังหวัด และประสานไปยัง นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเลขาของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ ให้ช่วยดูว่า จะขอใช้พื้นที่ติดตั้งต่อไปอีก 1 ปี ได้หรือไม่ เพราะการมีอยู่มีแต่จะส่งผลดี ทางเทศบาลยืนยันว่ายังไม่อยากจะรื้อออก หากทาง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความเห็นชอบ ก็จะคงประติมากรรม "ยายสา" ไว้ต่อไป.