ครอบครัวหนุ่มก่อสร้างเดือดร้อนหนัก ถูกเรียกเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกันคืน 10,000 บาท อ้างพี่สาวภรรยาโกรธ ที่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างลงทะเบียนให้ ยันเดือดร้อนจริง อยู่กัน 7 คน ในจำนวนนี้ป่วย 3 คน
วันที่ 23 ก.ค. นายสมศักดิ์ จันทรชู นายอำเภอหาดใหญ่ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหาดใหญ่ ลงพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือครอบครัวของ นายสันติ เถิงพิทักษ์ อายุ 27 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 23/2 หมู่ 6 ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่องจากได้รับความลำบาก อาศัยยู่ด้วยกัน 7 ชีวิต ทั้งครอบครัวตัวเอง 4 คน พ่อแม่และน้องชาย ซ้ำร้ายลูกสาวอายุ 9 ขวบ ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 ป่วยไม่มีรูทวาร และลูกสาวคนเล็กอายุ 1 ปี 7 เดือน เด็กดาวน์ซินโดรม และโรคหัวใจรั่ว ในขณะที่น้องชายอายุ 24 ปี ก็เป็นดาวน์ซินโดรมด้วย
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ นายสันติเพิ่งได้รับหนังสือจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ให้คืนเงินเยียวยาโควิด ที่ได้รับมา 2 เดือน จำนวน 10,000 บาท คืนภายใน 7 วัน โดยนายสมศักดิ์ อ้างว่า พี่สาวภรรยา ซึ่งเป็นผู้ลงทะเบียนให้ ได้กดสละสิทธิ์การรับเงินไป
นายสันติ บอกว่า ตอนนี้ครอบครัวลำบากมาก เพราะตนกับพ่อ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเลี้ยงครอบครัวจากการทำงานก่อสร้าง ได้คนละ 400 บาทต่อวัน ช่วงไหนไม่มีงานก็ไม่มีเงิน เดือดร้อนทั้งค่ากินอยู่ ค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาท ค่านมค่าผ้าอ้อมของลูก
โดยเฉพาะลูกสองคนที่ป่วย ไม่มีรูทวาร แม้จะได้รับการผ่าตัดมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังมีปัญหาระบบขับถ่าย ต้องใส่ผ้าอ้อมอนามัยตลอดเวลา จนถูกเพื่อนล้อ เพราะมีปัญหาเรื่องกลิ่น
ส่วนลูกสาวอีกคน วัย 1 ปี 7 เดือน ซึ่งเป็นเด็กดาวน์ซินโดรม และป่วยหัวใจรั่ว กำลังรอการรักษาแต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ตอนนี้น้องกินได้เฉพาะนมถั่วเหลืองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น กินอาหารอื่นไม่ได้
...
นายสันติ บอกว่า นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ยังมีเรื่องเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกัน 10,000 บาท ที่ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ส่งหนังสือเรียกคืนให้กระทรวงการคลัง ซึ่งตนไม่มีปัญญาหาเงินไปจ่ายคืน และกลัวว่าจะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี
โดย นายสันติ อ้างว่า สาเหตุที่ถูกเรียกเงินคืน เนื่องจากพี่สาวของแฟน ได้ไปกดสละสิทธิ์ เนื่องจากไม่พอใจหลังรู้ว่า ตนได้รับเงินเยียวยามา 10,000 บาท ซึ่งเป็นการโอนเข้ามาพร้อมกัน 2 งวด แล้วไม่จ่ายเงินให้พี่สาว 1,000 บาท ตามที่ตกลงกัน ซึ่งเป็นเงินค่าจ้างที่พี่สาวช่วยลงทะเบียนรับเงินเยียวยาให้ เพราะตนทั้งสองทำไม่เป็น จึงไปกดสละสิทธิ์เงินเยียวยาของตน ซึ่งก็ทำให้ตนไม่ได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนสุดท้าย 5,000 บาท รวมทั้งต้องมาถูกเรียกเงินคืน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาช่วยเหลือ เพราะตนลำบากจริงๆ และไม่ได้เป็นคนกดยกเลิกเงินเยียวยา
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหาดใหญ่ ได้รับเรื่องเอาไว้ และจะประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบกับเรื่องเงินเยียวยา 5,000 บาทว่า กรณีแบบนี้จะต้องทำอย่างไร หรือให้การช่วยเหลือแบบไหนได้บ้าง
ส่วนกรณีลูกสาวทั้งสองคนที่ป่วย ได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ เพื่อทำเรื่องให้เป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งการช่วยเหลือเรื่องอาชีพที่ให้ภรรยาและแม่ สามารถทำที่บ้านได้ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มเติมและได้ดูแลลูกที่ป่วยไปพร้อมๆ กัน
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของ นายสันติ สามารถโอนเงินไปช่วยเหลือได้ที่หมายเลขบัญชี 079-0-09930-6 น.ส.พรวิลัย บ่อชน ธนาคารกรุงไทย สาขาการบินไทย หรือโทรศัพท์สอบถามที่ หมายเลข 06-4797-2863 และ 06-2240-0056