ปากเป็นเหตุ! สาวเมืองคอนกุเรื่องสามีติดโควิด-19 หลังใกล้ชิด "ลุงเวช" ที่สังเวยชีวิตรายแรกของจังหวัด เหตุกลัวจนท.การไฟฟ้ามาตัดไฟที่บ้าน เนื่องจากค้างชำระ 3 เดือน เพื่อให้พนักงาน กฟภ.ไม่กล้าเข้าไปตัดมิเตอร์ หลังมีคนเอาไปลงโซเชียลกลายเป็นที่ฮือฮา เจ้าตัวโร่ออกมากราบขอโทษ อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีคลิปเหตุการณ์นางสุภาพร สืบพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205 หมู่ที่ 1 ต.นาโพธิ์ อ. ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ภรรยาของนายบุญส่ง ไชยศร โดยเมื่อเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ทุ่งสง เข้าไปที่บ้านของนางสุภาพร เพื่อตัดหม้อมิเตอร์ไฟฟ้า เนื่องจากบ้านนางสุภาพร ได้ค้างชำระค่าไฟฟ้าอยู่ 2-3 เดือน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงนางสุภาพร ได้ออกมาพบและพูดคุยกับทางพนักงานไฟฟ้าว่าตัวเองไม่รู้จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนายบุญส่ง สามีหรือไม่ เพราะนายบุญส่ง สามีใกล้ชิดกับนายเวช การดี อายุ 74 ปี ชาวบ้านพานแพ หมู่ 7 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนเสียชีวิตเป็นรายแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ฟังนางสุภาพร พากันตกใจรีบเผ่นหนีขึ้นรถทันที ก่อนจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมอัดคลิปไว้เป็นหลักฐาน

นางสุภาพร กล่าวต่อว่าหลังจากนายเวชเสียชีวิต สามีตนซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดเพราะไปประกอบอาชีพทำไม้อยู่ใกล้บ้านนายเวช ถูกกักตัว 14 วัน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้ามาตรวจที่บ้านตนครั้งหนึ่งแล้ว บอกว่าตนไม่ได้ติดเชื้อเพราะไม่ได้สัมผัสกับสามี ตอนนี้จึงไม่มีอาการใดๆ โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้แนะนำนางสุภาพร ว่าอย่าออกจากบ้านไปไหน อย่าเพิ่งไปที่สำนักงานการไฟฟ้าเพื่อติดต่อชำระเงินที่ค้าง 2-3 เดือนเพราะอาจจะนำเชื้อไปแพร่ระบาดสู่เจ้าหน้าที่ได้จะทำให้ยุ่งยากไปกันใหญ่ และในระหว่างนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าไฟฟ้าและการที่จะถูกตัดกระแสไฟฟ้า

...

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทางผู้นำท้องที่โดยกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านบนควน ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบคลิปดังกล่าว ก่อนออกมาอัดคลิปยืนยันว่าเรื่องราวตามคลิปที่นางสุภาพร แจ้งกับพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่เป็นความจริง โดยนางสุภาพร ยอมรับว่า กุเรื่องดังกล่าวขึ้นมา เพราะเจ้าพนักงานไฟฟ้าได้เข้ามาติดต่อขอยกเลิกการติดตั้งหม้อกระแสไฟฟ้าหลายครั้ง นางสุภาพร เกรงว่าบ้านจะถูกตัดไฟฟ้าทำให้ได้รับความเดือดร้อน จึงวางแผนขึ้นมาหลอกให้ข่าวกับเจ้าพนักงานการไฟฟ้าฯเพื่อให้หวาดกลัว และไม่กล้าตัดมิเตอร์ไฟฟ้าบ้านของตัวเอง โดยไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียลกว้างขวางดังกล่าว

"ดิฉันกุเรื่องดังกล่าวขึ้นมาโดยไม่มีมูลความจริงใดๆ นายบุญส่ง สามีก็ไม่ได้ติดโรค หรือถูกกัก ทำงานตามปกติ ตนต้องการเพียงไม่ให้ถูกตัดมิเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น จึงกราบขอโทษเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า และทุกคนด้วยที่กระทำลงไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์" นางสุภาพรกล่าว

ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านบนควน ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง กล่าวยืนยันว่า ตนรู้จักและใกล้ชิดกับครอบครัวของนางสุภาพรเป็นอย่างดี ในช่วงที่โควิดแพร่ระบาดก็พยายามลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามและแนะนำลูกบ้านทุกคนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าทั้งนายบุญส่ง นางสุภาพร ไม่ได้ออกจากหมู่บ้านไปทำงานใน อ.บางขัน หรือพื้นที่เสี่ยงแต่อย่างใด เขาอยู่ในหมู่บ้านโดยตลอด ข่าวที่แพร่ออกไปไม่เป็นความจริง เพียงกลัวว่าจะถูกตัดกระแสไฟฟ้า ก็เลยพูดกุเรื่องขึ้นมาโดยไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์หรือผลกระทบขึ้นมาใหญ่โตทีหลัง ตนในฐานะผู้นำชุมชนหมู่ 1 ต.ควนกรด ต้องกราบขออภัยประชาชนทุกคนด้วย.