เปิดใจผู้ป่วย "โควิด-19" เล่าประสบการณ์ติดเชื้อไม่รู้ตัว หมดสติ 15 วัน รวมรักษาตัวที่โรงพยาบาล 33 วัน ขณะที่ปัจจุบันหายแล้ว ยอมรับเคยคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่สุดท้ายกลับเป็นวิกฤติของชีวิต
วันที่ 16 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางกุ้ง เข้าเยี่ยมและทำแผลให้กับผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของจังหวัดสุราษฎร์ฯ ภายในบ้านพักที่แยกจากครอบครัว พื้นที่ตำบลบางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยหลังผู้ป่วยรายนี้ได้รับการรักษาจนหายดี และสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามอาการของผู้ป่วยรายนี้อีกระยะตามมาตรการดูแลผู้ป่วยหลังจากออกจากโรงพยาบาล
นายอรรจกรณ์ สมเกียรติกุล สาธารณสุขอำเภอ บอกว่า ได้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามอาการเป็นระยะทั้งทางโทรศัพท์ และการเยี่ยมบ้าน เพื่อเฝ้าระวังตามมาตรการอีก 14 วัน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าผู้ป่วยมีอาการที่ดี แผลที่เกิดจากการรักษาโรคไตวายเฉียบพลันดีขึ้น อีกทั้งคนในชุมชนก็มีความเข้าใจในการป้องกันโรค ทำให้ไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนแห่งนี้เพิ่มขึ้น นอกจากผู้ป่วยรายนี้ ภรรยา และลูกอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน ที่รักษาหายจนผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบทุกราย
...
สำหรับผู้ป่วยรายนี้ ถือเป็นผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดสุราษฎร์ฯ ได้รับเชื้อมาจากจังหวัดปัตตานี เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีด้วย อาการรุนแรงเพราะมีโรคประจำตัว ทำให้โรคเบาหวานกำเริบหนัก และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันจากโรคเบาหวานและโคโรนาไวรัส จนอาการสาหัส ใช้ระยะเวลาในการรักษา โควิด-19 นานกว่าปกติรวม 23 วัน และรักษาอาการโรคเบาหวานจนควบคุมน้ำตาลได้ และไตอยู่ในภาวะปกติ รวมทั้งสิ้นใช้ระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาลทั้งสิ้น 33 วัน
ทางด้าน ผู้ป่วยรายนี้ เปิดใจว่า ในตอนแรกคิดว่า โควิด-19 เป็นเรื่องที่ไกลตัวเอง แต่ก็ติดตามตลอดและไม่คิดว่าตนเองจะติดเชื้อได้โดยที่ไม่รู้ตัว แต่ก็เริ่มสงสัยจึงเข้าพบแพทย์ ก่อนจะหมดสติไปถึง 15 วัน กว่าจะรับรู้ได้อีกครั้ง ยอมรับว่าเชื้ออันตรายมาก จึงอยากให้เพื่อนบ้านและประชาชนทุกคนต้องป้องกันตัวเอง อย่ากลัวจนเกินไป แต่ก็อย่าประมาท ป้องกันตัวเอง ครอบครัว และคนรอบข้างให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่ม 7 คน สะสม 371 คน ไม่พบเชื้อ 349 ราย รอผลตรวจ 4 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 18 ราย สามารถรักษาผู้ป่วยที่อาการสาหัสและไม่สาหัสกลับบ้านได้แล้ว 12 ราย และไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่องมาร่วม 1 สัปดาห์แล้ว.