จนท.สนธิกำลังเข้าตรวจบานาน่าบาร์บนเกาะพีพี หลังมีคนแจ้ง ลอบขายยาเสพติกนักท่องเที่ยว เจอทั้งกัญชา ยาอี บัญชีเงินฝาก 12 บัญชี ยอดเงินกว่า 23 ล้าน

เวลา 22.00 น. วันที่ 1 มี.ค. นายธวัช จงรักษ์ภูวนาถ ปลัดอำเภอ หน.ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการพิเศษปราบปรามยาเสพติด จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.บช.ปส.4 จนท.ป.ป.ส.ภาค 8 ตชด.426 กระบี่ ตร.สภ.เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ และฝ่ายปกครอง จ.กระบี่ นำกำลัง จนท.กว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นร้านบานาน่าบาร์ บาร์ชื่อดังบนเกาะพีพี เลขที่ 179/13 หมู่ 7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ หลังมีผู้ร้องเรียนเข้ามายัง พ.ต.อ.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ ว่าบาร์ดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พบเจ้าของบาร์คือ ปิยะวัฒน์ ขุนบันเทิง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ถ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต จึงแสดงตัวขอตรวจค้นในร้าน

จากการตรวจค้น พบร้านดังกล่าวเป็นตึกแถว 2 ชั้น 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นบาร์สำหรับให้นักท่องเที่ยวดื่มกินนั่งฟังเพลง บริเวณชั้น 2 ของร้านเป็นห้องพักของเจ้าของร้านและพนักงาน ส่วนบริเวณดาดฟ้าของอาคาร เปิดเป็นบาร์สำหรับนั่งฟังเพลงและดื่มกินแบบเปิดโล่ง มีชาวต่างชาติประมาณ 100-200 คน กำลังนั่งดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน

เจ้าหน้าที่ขอให้ทางร้านหยุดให้บริการ และขอเข้าตรวจค้นภายในห้องพักชั้น 2 ของอาคาร ภายในห้องพักของนายปิยะวัฒน์ เจ้าของร้าน พบยาเสพติดหลายรายการ อาทิ ยาอี จำนวน 18 เม็ด กัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวม 875 กรัม แบ่งย่อยเป็น 51 ก้อน กัญชาแบบมวนผสมบุหรี่ จำนวน 534 มวน เงินสด 280,470 บาท นอกจากนี้ยังพบบัญชีธนาคารชื่อนายปิยะวัฒน์ บางส่วน และเป็นของหุ้นส่วนร้านอีกรายจำนวน 12 บัญชี รวมเป็นเงินกว่า 23 ล้านบาท จึงยึดอายัดบัญชีทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534

...

สอบสวน นายปิยะวัฒน์ เจ้าของร้าน รับสารภาพว่า ลักลอบขายยาเสพติดดังกล่าวให้กับนักท่องเที่ยวจริง โดยในส่วนของยาอี จะจำหน่ายในราคาเม็ดละ 1,500 บาท ส่วนกัญชานำมาผสมกับบุหรี่ แล้วแบ่งขายเป็นมวน ในราคามวนละ 200 บาท โดยร้านดังกล่าวหุ้นเปิดกับเพื่อนอีก 1 คน แต่หุ้นส่วนของตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการจำหน่ายยาเสพติด

ต่อมา เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นห้องพักของพนักงานในร้านทั้งหมด บริเวณชั้น 2 ของร้าน พบกัญชาอัดแท่งแบ่งย่อยออกเป็น 13 ก้อน น้ำหนักรวม 182.5 กรัม กระจายซุกซ่อนตามห้องพักพนักงาน 4 คน จึงจับกุมตัวทั้งหมด ประกอบด้วย น.ส.พัทรินทร์ หรือพัท ดรุณพันธ์ อายุ 33 ปี นายเกียรติชัย หรืออุ๊ เเขมจันทร์ อายุ 40 ปี นายวีระจิต หรือชาติ สิ้นชัยภูมิ อายุ 25 ปี น.ส.อภิญญา หรืออ้อย คงเทพ อายุ 41 ปี ตรวจค้นห้องพักของนายเอกพงษ์ หรืออุ้ย เงินทอง อายุ 33 ปี พบกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด คุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.เกาะพีพี

นอกจากนี้ ขอตรวจสอบใบอนุญาตเปิดสถานบริการ แต่พบว่าไม่มีใบอนุญาตมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายปิยะวัฒน์และพนักงานทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพีพี ดำเนินคดีในข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดนผิดกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายเอกพงษ์ แจ้งข้อหามีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้านนายธวัช หัวหน้าชุดจับกุม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนเข้าไปยัง ผวจ.กระบี่ ว่าที่ร้านดังกล่าวมีพฤติกรรมในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเปิดเป็นบาร์บังหน้ามานานร่วม 10 ปี จึงวางแผนร่วมกับชุดปฏิบัติการ และตำรวจ ปส. เข้าตรวจสอบหาข้อมูลมานานนับเดือน จนพบว่ามีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง ก่อนจะสนธิกำลังเข้าตรวจสอบและพบของกลางจำนวนมากดังกล่าว พร้อมคุมตัวเจ้าของร้านมาดำเนินคดี

ในส่วนของหุ้นส่วนของร้าน ทราบว่าเป็นหญิงชาวไทย มีสามีเป็นชาวต่างชาติ เปิดธุรกิจสถานบันเทิงอยู่ในพื้นที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งตำรวจ ปส.พร้อม ป.ป.ส.ภาค 8 กำลังสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีอีกราย รวมทั้งตรวจสอบทรัพย์สินของทั้งคู่เพิ่มเติมอีก.