กงสุลใหญ่รัฐปีนัง นอภ.สะเดา และศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-มาเลเซีย เยี่ยมให้กำลังใจ 21 คนไทย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียจับกุมหลังบังคับใช้กฎหมายไม่ให้มีการลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดน โดยทางการไทยต่อรองการเสียค่าปรับอยู่ที่ 300 ริงกิต
จากเหตุการณ์ที่คนไทยชาวบ้านปาดังเบซาร์จำนวน 21 คน ประกอบด้วย ผู้ชาย 5 หญิง 16 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียจับกุมเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้เข้าไปค้าขายสินค้าพื้นบ้านในตลาดปาดังเบซาร์แวร์มาร์ท ฝั่งมาเลเซียนานหลายปี
ล่าสุด นายรัชฏา จิวาลัย กงสุลใหญ่รัฐปีนัง นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา พร้อม พ.อ.อิสรภพ ศุภวานิช หัวหน้าสำนักงานศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-มาเลเซีย ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจและหาแนวทางการช่วยเหลือ เนื่องจากทุกคนมีหนังสือเดินทางและใบผ่านแดน และถูกควบคุมตัวอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชั้น 2 อาคารศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้สาเหตุคนไทยทั้ง 21 คนถูกจับกุม สืบเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากรัฐบาลชุดเก่า เป็นรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งก่อนหน้าที่ส่งเสริมการการค้าขายและการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน จึงมีการผ่อนปรนการจำหน่ายสินค้าแนวชายแดนโดยมีพ่อค้าแม่ค้าจากปาดังเซาร์ เดินทางข้ามไปเปิดแผงค้าขายมานานกว่า 10 ปี พอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารมีการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ จึงโดนจับกุมไม่เว้น
...
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการต่อต้านการคอร์รัปชันมาเลเซีย แถลงข่าวตำหนิเจ้าหน้าที่ของฝ่ายมาเลเซียที่ทำหน้าที่ดูแลพรมแดน ปล่อยให้มีการลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดนจากประเทศมาเลเซียมายังประเทศไทย มีการปล่อยคลิปภาพให้เห็นอย่างชัดเจน และมองว่าการที่ปล่อยให้คนไทยเข้ามาทำงานในมาเลเซียนั้นเป็นการแย่งอาชีพคนมาเลย์
การจับกุมคนไทยในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงานครั้งนี้ ต้องเสียค่าปรับคนละ 300-3,000 ริงกิต ซึ่งผลจากการเจรจาเมื่อวานนี้ได้ต่อรองการเสียค่าปรับอยู่ที่ 300 ริงกิต หรือคิดเป็นเงินไทย 2,100 บาท และทั้งหมดได้เดินทางไปจ่ายค่าปรับที่ศาลในรัฐเปอร์ลิส และคาดว่าสามารถกลับประเทศไทยภายในต้นเดือน พ.ย.นี้.
ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ภายหลังทราบข่าว พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้กองกำลังเทพสตรี ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบแนวชายแดนไทย - มาเลเซีย และสำนักงานประสานงานชายแดนไทย - มาเลเซีย เร่งรัด ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนไทย ที่ถูกควบคุมตัวอย่างเร่งด่วนที่สุด และคาดว่าจะสามารถปล่อยตัวกลับประเทศไทยได้ภายใน 7 วัน ทั้งนี้ได้แจ้งให้ญาติได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว
พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายมาเลเซียได้แถลงข่าว และเผยแพร่คลิปวีดีโอ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.62 เรื่องการลักลอบขนสินค้าเข้ามาฝั่งไทย ผ่านช่องทางผิดกฎหมายโดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและมาเลเซียให้ความร่วมมือและสนับสนุน นั้นจากการตรวจสอบพบเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าไปเกี่ยวของแต่อย่างใด ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 4 /ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ได้เพิ่มความเข้มงวดในการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนด้วยการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่สนับสนุนด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบบุคคล เฝ้าระวังที่ผ่าน เข้า – ออก พร้อมใช้มาตรการทางกฎหมายกับช่องทาง ท่าข้ามที่ผิดกฎหมาย ด้วยการจัดชุดปฏิบัติการ จรยุทธ์ เข้าลาดตระเวนเฝ้าตรวจทั้ง 74 ช่องทาง ยกเว้น จุดผ่อนปรน รวมทั้งได้ทำการซ่อมแซม รั้วชายแดนที่ชำรุด เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายกระสุน วัตถุระเบิด และกลุ่ม ผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาก่อเหตุ การลักลอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย และสินค้าเกษตรที่รัฐบาลควบคุมทั้ง 23 รายการ ทำให้ ในห้วงที่ผ่านมา สามารถสกัดกั้นบุคคลเฝ้าระวัง และจับกุมสินค้า ผิดกฎหมายจำนวนมาก.
...