ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก “ชวน ภูเก้าล้วน” อดีตนายกเทศมนตรี คหบดีคนดังเมืองกระบี่ 3 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดีรุกเกาะปอดะ ล้อมรั้วลวดหนามในพื้นที่อุทยานฯ 22 ไร่ ก่อนอนุญาตให้ประกันตัวไปในวงเงิน 2 แสนบาท หลังจากคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เป็นมหากาพย์คดีรุกที่เกาะปอดะยื่นฟ้องกันไปมาต่อสู้คดียาวนานตั้งแต่ปี 2528
ที่ศาลจังหวัดกระบี่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชวน ภูเก้าล้วน อายุ 82 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่หลายสมัย คหบดีตระกูลดังของจังหวัดกระบี่ และเป็นพี่ชายนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ คดีบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ สร้างรั้วลวดหนามบนเกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.กระบี่ เนื้อที่ 22 ไร่ ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1088/59 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1843/60 โดยศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาจำคุกนายชวน ภูเก้าล้วน เป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากนั้นทนายความได้ยื่นขอประกันตัวนายชวน และศาลอนุญาตให้ประกันตัวออกไปในวงเงิน 2 แสนบาท เพื่อยื่นสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มี.ค.59 อัยการจังหวัดกระบี่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อนายชวน ภูเก้าล้วน ในข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ จากนั้นวันที่ 20 เม.ย.60 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาวันที่ 28 ก.ย.60 อัยการยื่นอุทธรณ์ และวันนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ตัดสินจำคุก 3 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญาดังกล่าว
สำหรับการฟ้องร้องเรื่องบุกรุกที่ดินเกาะปอดะนั้นมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2528 กรมอุทยานฯ ได้ฟ้องร้องนายชวนว่าครอบครอง น.ส.3 ก รวม 4 ฉบับเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ที่ออกโดยมิชอบ ขณะที่นายชวนเข้าไปก่อสร้างรีสอร์ตบนเกาะ กระทั่งวันที่ 30 ธ.ค.54 ศาลฎีกาตัดสินให้นายชวนแพ้คดี ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและให้บริวารออกจากพื้นที่ จนในปี 2557 กรมอุทยานฯจึงเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่นายชวนได้อ้างเอกสาร ส.ค.1 อีก 1 ฉบับว่าครอบครองมาก่อนแล้วลงไปปักรั้วลวดหนาม ทางอุทยานฯจึงฟ้องร้องเพิ่มเติมอีก 1 คดี เมื่อปี 2559 จนนำมาสู่การพิพากษาคดีในชั้นอุทธรณ์วันนี้
...
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.58 นายชวนได้ฟ้องร้องอุทยานฯในคดีแพ่ง โดยอ้างเอกสาร ส.ค.1 เลขที่ 1 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เนื้อที่ประมาณ 71 ไร่ว่าครอบครองมาก่อน และให้อุทยานรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมเรียกค่าเสียหาย จนกระทั่งวันที่ 25 ก.ค.60 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นายชวนเป็นฝ่ายชนะคดี กรมอุทยานฯโดยอัยการจังหวัดกระบี่ ได้ยื่นอุทธรณ์ไปเมื่อเดือน พ.ย.60 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์