เริ่มบานแล้ว! ชาวคุระบุรี เชิญชมความงามของดอก ‘พลับพลึงธาร’ ราชินีแห่งสายน้ำ ที่บานสะพรั่งช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด ในแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงอนุรักษ์...

วันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือประมาณเดือน ต.ค.-ธ.ค.ของทุกปี ดอกพลับพลึงธาร ในคลองตาเลื่อน หมู่ที่ 7 ต.คุระบุรี อ.คุระบุรี จ.พังงา จะบานสะพรั่งรับหน้าหนาวที่มาเยือน ต่างแย่งกันชูช่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม และสัมผัสอย่างใกล้ชิดในแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงอนุรักษ์ของจังหวัดพังงา

สำหรับ ดอกพลับพลึงธาร เป็นพันธุ์ไม้ที่ใกล้สูญพันธุ์ และแปลกตรงที่ไม่เคยพบเห็นจากที่ใดในโลก แต่เป็นพืชน้ำเฉพาะถิ่นของประเทศไทย พบได้ในแถบจังหวัดพังงา และระนอง โดยที่พังงานั้น พบได้ที่บริเวณแม่น้ำลำคลอง ใน อ.คุระบุรี พังงา และ อ.สุขสำราญ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เป็นพืชอวบน้ำในช่วงฤดูฝนที่น้ำหลากจะมีการผสมเกสร โดยในแต่ละผลจะมีเมล็ดข้างใน 3-4 เมล็ด และจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงปลายฤดูฝน หรือต้นฤดูหนาว

...

ขณะที่ ดอกพลับพลึงธาร เป็นดอกไม้ประจำท้องถิ่น จึงเห็นความสำคัญในการพัฒนา และอนุรักษ์ให้ดอกพลับพลึงธารเป็นดอกไม้คู่บ้านคู่เมือง และเป็นดอกไม้อีกหนึ่งชนิดสำคัญของโลก ลักษณะของดอกพลับพลึงธาร จะเป็นดอกตูมสีขาว ชูช่อขึ้นเหนือน้ำ หากบานแล้วจะส่งกลิ่นหอมอบอวล แต่กลับพบว่า มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากการขุดลอกคลอง และจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ในการอนุรักษ์พลับพลึงธาร จำเป็นที่จะต้องกำหนดเป็นนโยบาย และต้องให้ชาวบ้าน หรือหน่วยงานเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมให้มากกว่านี้ จากการสำรวจพบว่าพันธุ์ไม้ยังมีความสมบูรณ์ ดังนั้น นักท่องเที่ยวทั่วโลกน่าจะให้ความสนใจ อีกทั้งชาวบ้านและชุมชนยังช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบริเวณนี้ไว้เป็นอย่างดี ขณะนี้ทางท้องถิ่นให้ความสำคัญในการพัฒนา และอนุรักษ์ดอกพลับพลึงธารให้เป็นดอกไม้คู่บ้าน คู่เมือง และเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่สำคัญของโลก

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางไปชมความงามของดอกพลับพลึงธารบานสะพรั่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวปีนี้ สามารถเดินทางไปได้ที่บริเวณคลองตาเลื่อน บ้านคุระ หมู่ที่ 7 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา หรือสามารถติดได้ที่ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา โทร. 0-7648-1900-2