สงกรานต์โคราช
สงกรานต์ขอนแก่นจัดคลื่นมนุษย์ 2 แสนคน เพื่อเป็นเกียรติยศมอบกับ 'ซิโก้' เพื่อขอบคุณจากผลงานฟุตบอลทีมชาติไทย ขณะที่บุรีรัมย์เปิดเวทีการแสดงอุโมงค์น้ำเคลียร์เส้นทางจราจร จัดงานสงกรานต์คาร์นิวัล 13-14 เม.ย. พร้อมการแสดงจุดเล่นน้ำ อุโมงค์น้ำ อุโมงค์ไฟ ตั้งแต่ รัชกาลที่ 1 ถึงหน้าสนามไอโมบาย ระยะทาง 6 กิโลเมตร ขณะที่โคราชแห่พระพุทธรูปปางขอฝน อายุ 361 ปี พิธีเก่าแก่ที่เลิกไปรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่...
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 เม.ย.60 นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้ทยอยเดินทางมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียวกันอย่างเนืองแน่นแล้ว แม้สภาพอากาศจะร้อนระอุเพียงใด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเล่นสงกรานต์ บนถนนข้าวเหนียว ซึ่งปิดถนนศรีจันทร์ ตั้งแต่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยาวไปจนถึงสี่แยกตัดกับถนนหน้าเมืองระยะทางกว่า 1 กม. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมบนเวทีกลางต่างๆ กว่า 10 เวที ขณะที่บริเวณภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งได้เนรมิตให้เป็นเกาะวิถีอีสาน ลานฮักลานแพง มีการละเล่นแบบไทยๆ การสรงน้ำพระพุทธพระลับ และพระอภัยมงคลสมังคลี พระประจำจังหวัดขอนแก่น เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันปีใหม่ไทย
...
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า วันแรกของการจัดกิจกรรมถนนข้าวเหนียวยังมั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 200,000 คน โดยในเวลา 19.00 น. "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย จะมาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์และร่วมเล่นคลื่นมนุษย์ ร่วมกับชาวขอนแก่นเป็นครั้งแรกด้วย โดยในวันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศพร้อมใจกัน ทำคลื่นมนุษย์เกียรติยศ มอบให้กับซิโก้ เป็นการแสดงความขอบคุณจากใจคนขอนแก่นและคนไทยทั้งประเทศ ที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นประทับใจคนไทยทั่วทั้งประเทศ
บรรยากาศงานประเพณีสงกรานต์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นไปอย่างคึกคัก สนุกสนาน เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานพร้อมใจจัดเวทีการแสดงละเล่นพื้นที่ของแต่ละชุมชน จำนวน 10 เวที, เวทีหมอลำ กันตรึมประยุกต์อีก 2 เวที รวมถึงติดตั้งอุโมงค์น้ำ อุโมงค์ไฟสำหรับให้ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ นอกจากนั้นยังมีเวทีฟรีคอนเสิร์ตบริเวณลานด้านหน้าสนามฟุตบอล ไอโมบายสเตเดียม เคลียร์พื้นผิวจราจร บนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ตั้งแต่บริเวณวงเวียนพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ถึงสี่แยกภัทรบพิตร ต.อิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ระยะทาง 6 กิโลเมตร ห้ามมิให้รถบรรทุกเข้า และปิดช่องทางการจราจร 1 ช่องทาง เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงาน "บุรีรัมย์ สงกรานต์ คาร์นิวัล” (BURIRAM SONGKRAN CARNIVAL) ที่มีขึ้นในวันที่ 13 – 14 เม.ย. นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงเวลาเที่ยงคืน ได้อย่างเต็มที่ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยภายในงานจะมีขบวนแห่อัญเชิญพระสุภัทรบพิตร พระหลักเมือง ให้ประชาชนสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล, ขบวนแห่ CARNIVAL จากอำเภอและภาคส่วนต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ นอกจากนั้นยังมีการสร้างประติมากรรมทรายภายในสวนศิวะ 12 อีกด้วย โดยคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะมีประชาชน นักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัดมาร่วมงานนับแสนคน
ด้าน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความเรียบร้อยในการจัดงานดังกล่าว จะมีการจัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง อส. และตำรวจบ้าน เพื่อดูแลความปลอดภัยแก่นักเที่ยวที่เล่นน้ำตลอด 2 ข้างทาง อำนวยความสะดวกด้านจราจร พร้อมประกาศเป็นเขตห้ามดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดตลอดถนนสายดังกล่าวอย่างเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานประกอบพิธีเปิดงานประเพณีสงกรานต์โคราชแห่พระคันธารราษฎร์ หรือพระพุทธรูปปางขอฝน ลอดซุ้มประตูชุมพล หรือเรียกว่าประตูเมืองนครราชสีมา หรือประตูย่าโม โดยมีนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, พลตำรวจตรีสุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า คหบดี พี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่ากว่า 1,000 ร่วมกิจกรรมที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
...
ทั้งนี้ได้มีการอัญเชิญพระคันธารราษฎร์หรือพระปางขอฝน อายุ 361 ปีซึ่งเป็นพระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองโคราช มาจากอุโบสถวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหารหรือวัดกลางนคร ที่มีความเก่าแก่ขึ้นราชรถเดินทางมาประดิษฐานที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) เพื่อให้ประชาชนสรงน้ำกันอย่างเนืองแน่น พร้อมกันนี้พระธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา พร้อมพระเถระชั้นผู้ใหญ่รวม 9 รูปได้ประกอบพิธีสรงน้ำพระคันธารราษฎร์ รวมทั้ง ผวจ.นครราชสีมา เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนในการสรงน้ำขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนร่วมกันกับประชาชนจับผ้าสีเหลือง และสีขาวที่มีความยาว 89 เมตรที่ผูกไว้โยงกับขบวนรถแห่แล้วเดินชักลากลอดซุ้มประตูชุมพล โดยด้านหลังประตูมีการฉีดน้ำเป็นละอองฝนโปรยปรายเพื่อให้เกิดความชุ่มฉ่ำชุ่มชื่น เดินทางไปยังวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร โดยมีประชาน นักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติเดินทางเข้าขบวนระยะทางเกือบ 1 กม. ให้พี่น้องประชาชนสรงน้ำตลอดทาง
นายวิเชียร กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์โคราชแห่พระคันธารราษฎร์ลอดซุ้มประตูชุมพล ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราชมาตั้งแต่ก่อตั้งเมืองอายุ 361 ปีเก่าแก่มาก หรือเรียกว่า พระปางขอฝน เราจะร่วมกันอัญเชิญลอดประตูชุมพลเข้าไปตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของจังหวัดนครราชสีมาที่สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน แต่ได้เลิกไปเมื่อปี 2522 ซึ่งมาปีนี้เป็นปีแรกที่ทางวัดพระนารายณ์มหาราชฯ ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2, จังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ร่วมกันรื้อประเพณีนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นประเพณีที่เราจะอนุรักษ์กันเอาไว้กับประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาคู่กับคนไทยตลอดไป และถือเป็นประเพณีพิธีอันยิ่งใหญ่คือการแห่พระคันธารราษฎร์ลอดซุ้มประตูชุมพล เพื่อแห่ไปยังอุโบสถวิหารวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหารหรือวัดกลางนคร เพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติสรงน้ำไปตลอดเส้นทางจนถึงวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร
...
ขณะที่วิหารหลวงพ่อนาควัดโพธิ์ชัยศรี หรือวัดหลวงพ่อนาค ม.6 บ้านแวง ต.บ้านผืออ.บ้านผือ ท่านเจ้าคุณ พระภาวนา วิมล เจ้าอาวาสฯ และเจ้าคณะอำเภอบ้านผือ(มหานิกาย) อัญเชิญหลวงพ่อนาคภายในวิหาร ออกมาให้ประชาชนทั่วทุกสารทิศทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่จำนวนมาก ที่มีความตั้งใจเดินทางมาสรงน้ำขอพรหลวงพ่อนาคพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชาว อ.บ้านผือ จ.อุดรธานีเพื่อเป็นศิริมงคลในวันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย โดย 1 ปี จะมีครั้งเดียว ที่จะอันเชิญหลวงพ่อนาค ประดิษฐ์สถานอยู่ภายในวิหาร ครอบด้วยกระจกนิรภัยหรือกระจกกันกระสุน และปิดล็อกประตูเหล็กไว้อย่างดี หลังจากเมื่อครั้งในอดีตมีคนร้ายขโมยหลวงพ่อนาคเพื่อนำไปขายหลายครั้ง มีการเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ข ว่าคนที่ขโมยไปรวมทั้งคนพยายามขโมย ต้องมีอันเป็นไปต่างๆนาๆสุดท้ายต้องนำหลวงพ่อนาคกลับคืนมาที่วิหารตามเดิมเพราะพบกับเหตุการณ์ปาฏิหารย์ที่ไม่คาดคิด เช่นรถสตาร์ทไม่ติดเครื่องบินไม่สามารถบินขึ้นจากรันเวย์ นอกจากนี้ประชาชนที่มาขอพรหลวงพ่อนาคยังนำเอาน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ตักขึ้นมาดื่มและล้างหน้าตาและกรอกใส่ขวดนำกลับบ้านไปฝากญาติได้ดื่มและล้างหน้าล้างตา เพื่อเป็นศิริมงคลเช่นกัน.