น้องสาวนักร้อง จอย ชนัล ปฐมวงศ์ มอบตัวกลางดึก ลั่นพร้อมยอมความรับผิด คดีแจ้งความเท็จ ยืนยันไม่ได้ถูกอุ้ม แต่ที่หนีเพราะเกรงไม่ปลอดภัย ขณะ 'ส.ท.โตโต้' ใช้ตำแหน่งประกันตัว
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 26 ธันวาคม 2558 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นางสาวนันทนา หรือ อิ๋ว ปรัชญาวิจิตร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 /10 ถนนสามัคคุทิศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมบุตรสาวสองคน เข้าพบ พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแสดงตัวว่า ตัวเองพร้อมลูกไม่ได้ถูกอุ้ม ตามที่ นางชนัล ธนบุญ หรือ จอย ชนัล ปฐมวงศ์ นักร้องลูกทุ่งร้องทุกข์ไว้ และขอมอบตัวในคดีแจ้งความเท็จด้วย โดยมี พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารร่วมรับฟังด้วย
นางสาวนันทนา เผยว่า จริงๆ แล้วตนเป็นลูกเลี้ยง โดยมีน้องๆ อีก 4 คน ที่แม่บุญธรรมขอลูกของญาติพี่น้องมาเลี้ยงมาอยู่ด้วย แม่บุญธรรมจึงมีลูกเลี้ยง รวมกัน 5 คน อาศัยอยู่ในบ้าน และที่ดินผืนเดียวกันมาตลอด พอตนมีครอบครัวจึงแยกออกไปอยู่กับสามี ที่บ้านจึงมีเพียงน้องๆ 4 คน อยู่กับมารดา ก่อนที่มารดาจะเสียชีวิต ตนทราบมาว่า มารดาทำพินัยกรรมยกมรดกบ้านและที่ดินให้น้อง 4 คน ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งสามีเสียชีวิต จึงพาลูก 2 คน กลับมาอยู่ที่บ้าน ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครว่าอะไร ต่างคนต่างทำมาหากิน
กระทั่งเดือนเมษายน ที่ผ่านมา จู่ๆ นางจอย ก็มาหาที่บ้าน ทั้งๆ ที่ไม่เคยติดต่อกันมาสิบกว่าปี ก็มาสอบถามเรื่องความเป็นอยู่ ถามเรื่องบ้านและที่ดิน จึงเล่าให้ฟังว่ามารดาทำพินัยกรรมยกมรดกให้น้องๆ แล้ว ตนไม่ได้อะไรเลย นางจอยจึงบอกว่าให้คิดถึงลูก พร้อมทั้งบอกว่าถ้าอยากได้ที่ดินจะช่วยแนะนำวิธีการให้ และนางจอย ก็พามาแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่นว่า จะทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งเป็นบ้าน และที่ดินของมารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่โฉนดที่ดินหายจึงต้องแจ้งความ เจ้าหน้าที่ก็รับแจ้ง จากนั้นนางจอยก็พาเดินเรื่องทุกขั้นตอน กระทั่งการยื่นเรื่องทำโฉนดใหม่ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ดิน แจ้งว่า กรณีโฉนดหาย หากทำใหม่ต้องประกาศ 1 เดือน ช่วงที่ประกาศหากไม่มีคนคัดค้าน ก็มารับโฉนดได้ และขั้นตอนทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะพี่น้อง 4 คนที่มารดาทำพินัยกรรมยกมรดกให้ไม่รู้เรื่อง เมื่อโฉนดที่ดินออกมา นางจอย ก็พาไปรับ และพาไปนั่งดื่มกาแฟที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งพร้อมกับจ่ายเงินค่าที่ดินให้ จำนวน 670,000 บาท จากนั้นก็แยกย้ายกัน ส่วนตนก็กลับมาอยู่ที่บ้านเช่นเดิม
...
ต่อมา น้องๆ ทราบเรื่องว่า ตนมาแจ้งความเพื่อทำโฉนดที่ดิน และแอบทำเรื่องขายที่ดินให้นางจอย จึงพากันไปแจ้งความจับ เพราะน้องๆ เขามีพินัยกรรม และน้องๆ ก็ยื่นฟ้องต่อศาล เมื่อ นางจอย ทราบว่า น้องๆ มาแจ้งความจับ และฟ้องศาล ก็เป็นเดือดเป็นร้อน เกรงว่าจะไม่ได้ที่ดิน จึงพยายามมาหาที่บ้าน แต่ญาติพี่น้องไม่มีใครต้อนรับ ส่วนตนก็กลัวเรื่องความปลอดภัยเพราะแต่ละครั้งที่นางจอยมาหา จะมีชายฉกรรจ์คุ้มครองหลายคน ท่าทางน่ากลัว จึงคิดว่าไม่มีความปลอดภัย จึงไม่ให้ลูกไปโรงเรียน และพาลูกหลบหน้านางจอยมาตลอด ไม่ให้ลูกเรียนหนังสือ เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยแต่ไม่ได้หนีไปไหน ยังอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องที่บ้านหลังดังกล่าว เพราะทุกคนรู้ว่า นางจอยไม่เข้าไปในบ้านนั้นแน่นอน
ส่วนกรณีที่นางจอย แจ้งว่า ตนถูกนักการเมืองท้องถิ่นอุ้มไปพร้อมกับลูกนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะจริงๆ แล้ว ทุกคนเป็นเครือญาติกันทั้งนั้น และนักการเมืองรายดังกล่าวก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่มีส่วนได้เสียในที่ดินแปลงนี้ด้วยเช่นกัน และขอยืนยันว่า ที่ดินแปลงที่ตนขายให้นางจอยนั้น มารดาได้ทำพินัยกรรมยกให้น้องๆ จริง หลังเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ญาติพี่น้องก็ยืนฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินคืน ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ศาล ส่วนการที่ถูกตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น แจ้งข้อหา แจ้งความเท็จ กรณีที่ตนมาแจ้งความเรื่องโฉนดที่ดินหายนั้น ยอมถูกจับกุมเพราะตนผิดจริง
ในขณะที่ นางนันทนา กำลังนั่งให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ญาติพี่น้อง และ นายภาสกร กาญจนวรางกูร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/27 ม.14 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น สมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น หรือ ส.ท.โตโต้ ก็เดินทางมาให้กำลังใจด้วย และขอใช้ตำแหน่ง ส.ท.ประกันตัว นางสาวนันทนา ในคดีแจ้งความเท็จ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อนุญาตให้ประกันตัวได้
นายภาสกร หรือ ส.ท.โตโต้ กล่าวว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่ได้มีส่วนได้เสียกับที่ดินแปลงดังกล่าว แต่ยอมรับว่า น้องๆ 4 คนมาปรึกษาเรื่องที่ดินที่ถูกขายไป จึงแนะนำทนายความให้ จากนั้นน้องๆ ก็จัดการกันเอง ที่ไม่ยุ่งเพราะทุกคนเป็นเครือญาติเดียวกันหมด
ทางด้าน พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เผย ภายหลังสอบปากคำนางนันทนา ว่า นางนันทนา ทราบว่า มีเรื่องราวขยายวงกว้างจะทำให้ญาติพี่น้องเดือดร้อนไปด้วย ในกรณีที่นางจอยร้องทุกข์ จึงต้องการมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อพูดความจริงให้ฟัง และยืนยันว่าไม่ได้ถูกอุ้ม ส่วนเรื่องที่ดินยอมรับว่า ตนเองแจ้งความเท็จ ซึ่งในคดีแจ้งความเท็จนั้นมีหมายจับ เจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในทุกๆ เรื่องมีที่มาที่ไป เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ส่วนเรื่องข้อพิพาทในที่ดินนั้น ที่ นางจอย อ้างว่า ซื้อจากนางสาวนันทนา ราคา 3 ล้านบาท ตอนนี้มีการฟ้องร้องที่ศาลก็ต้องให้ศาลพิจารณา เมื่อขบวนการทางศาลสิ้นสุดและสรุปออกมา ทุกฝ่ายก็จะรู้ความจริง