เจ้าของบ้านผงะตื่นเช้าเห็นถุงปุ๋ยวางผิดปกติข้างบ้านเปิดดูเจอศพลุงตาบอดวัย 69 ปี คาดมองไม่เห็นทางตกร่องน้ำ ตะกายขึ้นมาได้ พยายามคลานหาผ้าห่มแต่ไม่มีจึงคว้าเอาถุงปุ๋ยมาห่ม แต่อากาศเย็นจัดเสียชีวิต

วันที่ 12 ม.ค. 68 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ. ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ยปรีชา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านปราสาท ว่าพบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณบ้านของชาวบ้าน ที่บ้านปราสาท ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านด่าน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.3 บ้านปราสาท ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ บริเวณข้างโอ่งน้ำข้างบ้าน พบศพชายทราบชื่อต่อมานายสุข ขะจัดโรคา อายุ 69 ปี นอนหงายใส่กางเกงในตัวเอง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ห่างกันประมาณ 50 เมตร บริเวณริมคลองส่งน้ำ พบเสื้อผ้าเปียกน้ำของผู้ตายกองอยู่ใกล้กับรั้วลวดหนามริมถนนใกล้คลอง

บุรีรัมย์ หนาวฮวบ 13 องศา ลุงตาบอดคลานหาผ้าห่มไม่เจอ คว้าถุงปุ๋ยคลุมร่างดับสลด

สอบถามนางอัมพร ตอนรัมย์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านและเป็นคนพบศพ เล่าว่าช่วงประมาณ 22.00 น.คืนที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงเหมือนคนมารื้อค้นอยู่บริเวณที่พบศพ จึงคิดว่าเป็นแมว ประกอบกับเมื่อคืนอุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส จึงไม่อยากออกมาดู

...

บุรีรัมย์ หนาวฮวบ 13 องศา ลุงตาบอดคลานหาผ้าห่มไม่เจอ คว้าถุงปุ๋ยคลุมร่างดับสลด

พอตื่นตอนเช้าคิดว่าจะเอาไม้กวาดไปกวาดหน้าบ้าน เห็นถุงปุ๋ยคลุมวัตถุบางอย่างจึงหยิบออกเพื่อต้องการเก็บให้เรียบร้อย ระหว่างที่เปิดถุงปุ๋ยออกมา ถึงกับเข่าอ่อน เพราะเป็นร่างคนลักษณะแข็งทื่อและคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว

บุรีรัมย์ หนาวฮวบ 13 องศา ลุงตาบอดคลานหาผ้าห่มไม่เจอ คว้าถุงปุ๋ยคลุมร่างดับสลด

ด้านนายชาย ขะจัดโรคา อายุ 60 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่าพี่ชายตาบอดมากว่า 10 ปี ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตามลำพัง คืนเกิดเหตุคาดว่าพี่ชายน่าจะเดินกลับบ้านแต่มาพลาดตกคลองส่งน้ำ แล้วพยายามช่วยเหลือตัวเองซึ่งพี่ชายน่าจะรีบถอดเสื้อผ้าออกเพราะอากาศหนาวจัด

และคาดว่าน่าจะพยายามหาที่พึ่งคือเครื่องนุ่งห่มกันหนาว จึงคลานไปบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่มีใครออกมาจึงคว้าเอาสิ่งที่ทำได้คือถุงปุ๋ยเอามาคลุมร่าง ซึ่งอาจจะทนกับสภาพอากาศที่หนาวจัดไม่ได้ จึงเสียชีวิต.