ตร. นครพนม พบ "พระพุทธรูป" 3 องค์ต้องสงสัย ถูกทิ้งริมถนนข้างทางป่าช้า ตรวจค้นพบซุก "เฮโรอีน-ไอซ์" มูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม พบหลักฐานของกลาง การันตีถึงความพยายามในการลักลอบขนส่งยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านชายแดนแม่น้ำโขงทุกรูปแบบไม่หยุด ครั้งนี้ถือเป็นการตรวจยึดครั้งแรกในรอบหลายปี สำหรับพระพุทธรูป พระประธานปางสมาธิ นาคปรก ขนาดหน้าตักประมาณ 1.5 เมตร ความสูงประมาณ 2 เมตร ประกอบด้วย องค์สีทอง องค์สีเขียว และองค์สีดำ รวม 3 องค์
หลังจากที่ ทาง พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้รับเบาะแสว่า จะมีการขนส่งยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จึงประสานหน่วยงานความมั่นคง ลงพื้นที่ลาดตระเวนกดดันหาข่าว ลงพื้นที่สกัดกั้นติดตามจับกุม จนกระทั่งพบของกลางพระพุทธรูปต้องสงสัย ถูกทิ้งริมถนนข้างทางป่าช้า บ้านดอนแดงน้อย หมู่ 15 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงยึดมาตรวจสอบ ซึ่งบางองค์พังเสียหาย เนื่องจากเป็นวัสดุหล่อขึ้นรูปจากเรซิ่น ลักษณะเป็นการโยนทิ้งจากรถยนต์ และมีวัตถุต้องสงสัยบรรจุภายใน
...
เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ มีการซุกซ่อนบรรจุยาเสพติดเป็นห่อขนาดเล็กไว้ภายใน ประกอบด้วย เฮโรอีน 32 แท่ง แท่งละประมาณ 400 กรัม รวมน้ำหนัก 12 กิโลกรัม ตราสัญลักษณ์สิงโตคู่เกาะลูกโลกสีแดง
นอกจากนี้ ยังมียาไอซ์บรรจุในถุงชาจีน 3 สี 1. สีเขียว มีดาว 5 ดวง อยู่เหนือเลข 6 รวม 6 ตัว ส่วนสีเขียวอ่อนระบุยี่ห้อกวนยินหวัง และสีแดง นับได้จำนวน 117 ห่อ ห่อละ 1 กิโลกรัม มีน้ำหนักรวม 117 กิโลกรัม รวมมูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของกลาง ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง เชื่อว่าจะมีการลำเลียงผ่านมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทางชายแดนภาคเหนือ เข้ามาทางอีสาน โดยงัดสารพัดวิธีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ สะดวกในงานขนส่ง รวมถึงมีการหล่อพระพุทธรูป และสอดไส้ยาเสพติดไว้ภายใน โดยไม่ได้ทำแค่ซุกไว้ในฐาน ลักษณะการบรรจุเป็นการซุกซ่อนแล้วหล่อขึ้นรูป พร้อมประดับตกแต่งความสวยงาม เหมือนพระพุทธรูปทั่วไป
อีกทั้งยังพบเศษดินทรายน้ำโขงในฐานพระพุทธรูป จึงเชื่อว่ามีการขนย้ายผ่านแม่น้ำโขงมาจาก สปป.ลาว ผ่านชายแดน จ.นครพนม รวมถึงยังมีเศษถุงพลาสติกบรรจุภายในเป็นตัวอักษรภาษาลาว ที่สำคัญยังมีการห่อหุ้มด้วยกระดาษก็อปปี้จำนวนมาก เชื่อป้องกันสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์ยาเสพติด ส่วนปลายทาง มั่นใจว่าจะต้องนำส่งไปพื้นที่ตอนในของไทย เพื่อนำไปพักรอการขนส่งออกต่างประเทศ เนื่องจากเป็นยาเสพติดประเภท ยาไอซ์ และเฮโรอีน จากข้อมูล จะส่งขายในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง จะเพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจสอบสกัดกั้นปราบปรามจับกุม ติดตามหาข่าวในพื้นที่ชายแดนมากขึ้น เพื่อเพิ่มมาตรการสกัดกั้นปราบปรามจับกุม ส่วนสาเหตุผู้กระทำผิดทิ้งของกลางไว้ คาดว่าถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ และไหวตัวทัน รวมถึงมีนายหน้าเคลียร์เส้นทาง เป็นกลุ่มคนเกิดข่าวรั่ว จึงทิ้งของกลางหลบหนี.