เกษตรกรที่ อ.เสิงสาง มีที่นาเป็นแอ่งกระทะ ปกติทำนาข้าวไม่รุ่งเพราะหน้าฝนน้ำขังสูง จึงนำที่ 2 ไร่มาปลูกผักบุ้งแก้ว โดยลงทุน 4,800 บาทซื้อต้นพันธุ์มาลง ใช้เวลาครึ่งเดือนเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขาย กก.ละ 14-15 บาท ได้วันละกว่า 500 บาท ทั้งเดือนรวมกว่าหมื่นบาท

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประชา สุริยะประสิทธิ์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านสระตะเคียน ต.สระตะเคียน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ปรับเปลี่ยนแปลงนาเนื้อที่ 2 ไร่ของตัวเองมาปลูกผักบุ้งแก้วเพื่อส่งขายให้กับตลาด สร้างรายได้รายวัน วันละกว่า 500 บาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้ทำนาปลูกข้าวแล้วต้องประสบกับสภาวะการขาดทุน เพราะที่นามีสภาพเป็นแอ่งกระทะ ทำให้น้ำท่วมขังในช่วงหน้าฝนผลผลิตข้าวไม่ได้เป็นที่น่าพอใจ โดยได้ศึกษาวิธีการปลูกจากอินเทอร์เน็ต และได้รับคำแนะนำจากทางกองส่งเสริมการเกษตรองค์การบริหารส่วนตำบลสระตะเคียน เป็นพี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด

เปลี่ยนที่แอ่งกระทะทำนาข้าวไม่รุ่ง ปลูกผักบุ้งแก้ว ตัดขายได้เดือนละหมื่น
เปลี่ยนที่แอ่งกระทะทำนาข้าวไม่รุ่ง ปลูกผักบุ้งแก้ว ตัดขายได้เดือนละหมื่น

...

นายประชา กล่าวว่า ที่นาเป็นที่ลุ่มต่ำลักษณะเหมือนแอ่งกระทะ ทำให้การทำนาช่วงฤดูฝนได้ผลผลิตไม่ดีนัก เพราะแปลงนาจะถูกน้ำท่วมบ่อยครั้ง  จึงคิดหาวิธีที่จะนำเอาพืชชนิดอื่นมาปลูกทดแทน โดยได้ศึกษาหาวิธีการมาจากสื่อโซเชียลต่างๆ จนไปพบกับวิธีการปลูกผักบุ้งแก้ว ซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำเป็นพิเศษ ที่ตอบโจทย์กับสภาพพื้นที่ จึงสั่งซื้อต้นพันธุ์มาปลูกจำนวน 20 ถุงประมาณ 100 กิโลกรัม ลงทุนเป็นเงิน 4,800 บาท

เปลี่ยนที่แอ่งกระทะทำนาข้าวไม่รุ่ง ปลูกผักบุ้งแก้ว ตัดขายได้เดือนละหมื่น
เปลี่ยนที่แอ่งกระทะทำนาข้าวไม่รุ่ง ปลูกผักบุ้งแก้ว ตัดขายได้เดือนละหมื่น

เจ้าของนาผักบุ้งแก้ว กล่าวต่อว่า ผักบุ้งแก้วปกติสามารถเก็บส่งขายได้ทุกวัน แบ่งเก็บเป็นล็อกๆ วันละประมาณ 500-600 บาท ราคาตอนนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 14-15 บาท แต่หากในช่วงหน้าแล้งราคาจะพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 40 บาท เลยทีเดียว ซึ่งก็จะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้านทุกวัน ถือเป็นรายได้หลักของครอบครัวไปแล้ว ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นปลูกผักบุ้งแก้วเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตอนนี้มีเงินเข้าบ้านแล้วเกือบ 50,000 บาท  ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจอย่างมาก

เปลี่ยนที่แอ่งกระทะทำนาข้าวไม่รุ่ง ปลูกผักบุ้งแก้ว ตัดขายได้เดือนละหมื่น
เปลี่ยนที่แอ่งกระทะทำนาข้าวไม่รุ่ง ปลูกผักบุ้งแก้ว ตัดขายได้เดือนละหมื่น

...

นายประชา กล่าวด้วยว่า สำหรับวิธีการปลูกก็นำท่อนพันธุ์มาปักลงในแปลงคล้ายการปลูกข้าว จากนั้นก็ให้ปุ๋ยทางน้ำและทางใบ ใช้เวลาครึ่งเดือนก็เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ต้นทุนก็น้อยให้ปุ๋ยแค่เล็กน้อยก็อยู่ได้ยาวเป็นเดือนๆ ศัตรูพืชหรือโรคต่างๆ ก็แทบจะไม่มี ระวังเพียงแมลงตับเต่าเท่านั้น ดีกว่าต้องลงทุนปลูกข้าวทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าไถ ค่าแรง ค่าเก็บเกี่ยว และต้องเสี่ยงกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนด้วย หากใครที่สนใจจะหันมาปลูกผักบุ้งแก้ว สามารถปรึกษาวิธีการปลูกและต้นพันธุ์ได้ที่นายประชา สุริยะประสิทธิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 08-1064-4565 โดยจำหน่ายต้นพันธุ์ถุงละ 5 กิโลกรัม ราคาถุงละ 120 บาท.