นักธุรกิจสาวเจ้าของบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “กลูต้า BTO” ออกโรงชี้แจงยืนยันผลิต ภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมสารเสพติด หลังตกเป็นข่าวนักเรียนสาวสั่งซื้อไปกินแล้วตรวจร่างกายพบสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย ทำให้แพทย์ออกใบรับรอง ไปใช้เรียนต่อมหาวิทยาลัยไม่ได้ แม้ผลตรวจซ้ำจะไม่พบสารเสพติดแต่ข่าวที่ออกไปทำให้บริษัทเสียหายยับ ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ไปแล้วกว่า 50 ราย แจงแม่เด็ก โทร.มาพูดคุยว่าให้ต่างฝ่ายไปตรวจสอบผลิตภัณฑ์กันก่อนแต่วันรุ่งขึ้นกลับไปออกข่าวใหญ่โตจนบริษัทเกือบเจ๊ง เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท แต่ยังให้โอกาสสองแม่ลูกมาเจรจากันก่อน

กรณี น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เข้าตรวจ ร่างกายที่ รพ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. พบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ แพทย์ไม่สามารถ ออกใบรับรองเพื่อนำไปใช้มอบตัวเข้าศึกษาต่อคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในภาคอีสานได้ผู้ปกครองพาเข้าแจ้งความว่าลูกสาวไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด เชื่อว่าสาเหตุมาจากกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผิวขาวที่สั่งซื้อมาจากอินเตอร์เน็ต แจ้งสาธารณสุข จังหวัดบุรีรัมย์เก็บตัวอย่างอาหารเสริมไปตรวจหาสารเสพติด คาดว่าจะรู้ผลภายใน 7 วัน ต่อมาผู้ปกครอง พา น.ส.ออยไปตรวจร่างกายซ้ำที่ รพ.บุรีรัมย์ เมื่อ วันที่ 29 พ.ค. ปรากฏว่า ไม่พบสารเสพติดใดๆ แพทย์ ออกใบรับรองให้นำไปยื่นต่อมหาวิทยาลัยได้ทันเวลาสำหรับสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 31 พ.ค. ขณะที่ทางคณะยืนยันว่ายังไม่ได้สัมภาษณ์ หรือตัดสิทธิผู้เข้าสอบคนใด เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด อีกทั้งหากผลตรวจร่างกายไม่เป็นไปตามเกณฑ์จะให้ไปตรวจซ้ำเพื่อยืนยันผล ไม่ได้ตัดสิทธิการเข้าเรียนทันที

ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ซอยรามอินทรา 52/1 เขตคันนายาว กทม. เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 พ.ค. น.ส.อภิรมณ สุขสีทา อายุ 27 ปี กรรมการผู้มีอำนาจ (เจ้าของ) บริษัท ธันญ์รดา 59 จำกัด เจ้าของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กลูต้า BTO ที่ตกเป็นข่าว ร่วมกับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวทางการดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเสียหาย พร้อมมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ต่อหน้าสื่อมวลชน

...

น.ส.อภิรมณเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ได้รับ แจ้งจากแม่เด็กว่าลูกสาวกินกลูต้าของบริษัทแล้วตรวจ พบสารเสพติด พอรับทราบก็รีบสอบถามข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะรีบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แม่น้องบอกว่าลูกเป็นคนดี ไม่เคยยุ่งเกี่ยว กับยาเสพติด อีกทั้งกำลังเข้ามหาวิทยาลัย แต่ผลตรวจ ร่างกายก่อนรายงานตัวไม่สามารถเข้าเรียนได้ เลยขอ ถามตนว่าจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างใด ยืนยัน ว่า เปิดขายกลูต้ามาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้วไม่เคยเจอปัญหาสารแปลกปลอมปนเปื้อนเหมือนเคสนี้ ขอไปตรวจสอบกลูต้าของตนก่อนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ฝ่ายแม่ของน้องก็กล่าวว่าจะนำกลูต้าไปตรวจสอบซ้ำเช่นกัน ตนก็ยินดี

เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลูต้า BTO เผย ต่อไปว่า ปรากฏว่าในวันถัดมาผลิตภัณฑ์ของตนตกเป็น ข่าวว่ามีสารเสพติด โดยการให้ข่าวของแม่ลูกคู่นี้ทั้งที่ คุยกันแล้วว่าจะนำผลิตภัณฑ์ไปตรวจสอบก่อน ทำให้เกิดความเสียหายและเสียชื่อเสียงกับบริษัทเป็นอย่างมาก อีกทั้งข่าวที่เสนอออกไปโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จ จริง ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัย ส่งผลกระทบทำให้ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ไปมากกว่า 50 ราย ก่อให้เกิด ความไม่เป็นธรรมทำให้ธุรกิจเสียหาย ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กลูต้าของตนได้รับการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และใบรับรองจากโรงงานแล้วว่าไม่พบสาร เสพติด หรือสารปนเปื้อนแต่อย่างใด อีกทั้งหลังเป็นข่าวก็นำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกรอบเมื่อวันที่ 29 พ.ค. เพื่อความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้ชะลอการผลิตแล้ว

น.ส.อภิรมณยอมรับว่าพอทราบข่าวก็แทบสติ แตก ขอยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของตนปลอดภัย หลังจากนี้ คงต้องใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อป้องกันตัวเอง ธุรกิจตนกำลังเติบโตแต่ข่าวที่ออกมาทำให้ธุรกิจเกือบพังทลาย ยังให้โอกาสเจรจาขอให้แม่ลูกติดต่อกลับมาพูดคุย ถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย

ด้านทนายเดชากล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้เตรียมฟ้องดำเนินคดีกับแม่ลูกคู่นี้ข้อหากล่าว หรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงของบริษัทตนเอง เสียชื่อเสียง ต่อแผนการตลาดธุรกิจต่างๆ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งจะฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้านบาท กับแม่ลูก คู่นี้ด้วย ให้ไปพิสูจน์ความจริงที่ศาล มองว่าคู่กรณียังให้ข่าวไม่หยุด ชัดเจนว่ามีเจตนาไขข่าวว่ากลูต้ามีสารเสพติด ถือว่ารุนแรงและทำให้บริษัทเสียหาย แม้ผลของลูกออกมาเป็นลบก็ยังไม่หยุด ดูแล้วไม่น่า จะเป็นการให้ข่าวด้วยความเป็นธรรมโดยไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งนี้จะให้เวลาแม่ลูกติดต่อกลับมา สักระยะก่อน หากไม่รีบติดต่อกลับมาจะฟ้องศาล จังหวัดบุรีรัมย์ทันที

จากนั้นมีการสาธิตการกินกลูต้าของบริษัท โดยให้ผู้บริโภคตัวอย่างที่กินเป็นประจำมา 3 เดือน และกินครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ให้กินอีกครั้ง 2 เม็ด ต่อหน้าสื่อ จากนั้นนำผงในแคปซูลผลิตภัณฑ์มา ตรวจหาสารเสพติดโดยใช้ชุดตรวจจาก สน.โคกคราม ปรากฏว่าขึ้น 2 ขีด แสดงผลว่าไม่พบสารเมทแอมเฟตามีน แต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจปัสสาวะของตัวอย่างผู้บริโภคพบว่า ชุดตรวจขึ้น 2 ขีด ไม่พบสารเสพติดเช่นกัน หลังจากนี้จะนำผลตรวจไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.โคกคราม ต่อไป

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนางเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่ของ น.ส.ออยเผยว่า ขณะนี้ลูกสาวรู้สึกโล่งใจกับผลตรวจซ้ำ ที่ออกมา เตรียมนำใบรับรองแพทย์ไปยื่นในวันสอบสัมภาษณ์ 31 พ.ค. ขณะนี้ลูกสาวยังอยู่ในอาการ เครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกรงจะส่งผลกระทบกับ การสอบสัมภาษณ์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เพราะเลือกเรียนอินเตอร์ คืนนี้เตรียมตัวออกเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ ไปถึงมหาวิทยาลัยในช่วงเช้า อยากให้ลูกสาวสอบสัมภาษณ์ผ่านเพื่อให้ได้เดินตามฝันที่คาดหวังไว้

...

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. เปิดเผยถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผิวขาวว่า ขณะนี้ทราบว่า สสจ.บุรีรัมย์ นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปตรวจสอบแล้วว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนผสมหรือไม่ ในส่วนของ บก.ปคบ. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.5 บก.ปคบ. ไปล่อซื้อผลิตภัณฑ์ผิวขาวมาแล้วหลายตัว เพื่อนำส่งไปตรวจแยกสารเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วน ที่มีการโฆษณาจะเกินจริงหรือไม่นั้น อย.คงต้องไปตีความว่ามีความผิดหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง ก็ต้องถูกแจ้งความดำเนินคดีอยู่แล้ว