แม่ร้องเรียน ลูกชายวัย 10 ขวบถูก ผอ.โรงเรียน ตบหัวหลายครั้งจนไม่อยากไปโรงเรียน ยอมรับตอนแรกไม่เชื่อลูก จนเพื่อนลูกชายช่วยยืนยัน ด้าน ผอ. ปฏิเสธ อ้างแค่คลึงให้สมองโล่ง

วันที่ 17 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ว่า ลูกชายอายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 ถูก ผอ.โรงเรียน ตบหัว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะบ้านมีฐานะยากจน และอยากให้มีคนมาเยียวยาจิตใจลูกชาย

โดย นางบุญหลง (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี แม่ของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) เล่าว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา ลูกชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.4 หนีออกจากโรงเรียนไปอยู่ที่โคกหนองนาโมเดล จึงรีบไปหาลูกชาย พบนอนซมอยู่กระท่อมทุ่งนา และบอกว่า "ปวดหัว" และสอบถามจนรู้ว่า ผอ.โรงเรียน ใช้มือตบเป็นประจำ และหนักสุดคือวันเกิดเหตุ คือมีการรัวตบแบบรุนแรง นับครั้งไม่ถ้วน

นางบุญหลง บอกว่า ยอมรับว่าตอนนั้นยังไม่เชื่อลูก เพราะอาจจะไม่อยากไปโรงเรียน วันต่อมาได้พาลูกไปส่งที่โรงเรียน เมื่อไปถึงลูกชายร้องไห้ บอกว่าไม่อยากเข้าโรงเรียน เพราะกลัว ผอ. ทำร้าย ครูเวรบอกว่า หากเด็กปวดหัวให้ลาไปหาหมอได้ แต่ตนไม่ยอม และให้ลูกเข้าเรียนเหมือนเดิม วันต่อมาได้พยายามถามเพื่อนลูกชาย จึงรู้ว่าที่ลูกชายเล่ามาเป็นความจริงทั้งหมด เพื่อนลูกชายบอกว่าวันจันทร์ ผอ. กระหน่ำตบหัวลูกชาย เท่าที่นับได้ 21 ครั้ง และเมื่อกลับมาถามลูกอีกครั้ง ลูกก็บอกว่า หนูโดนประจำ แต่วันนั้นหนักสุด จึงพาลูกไปหาหมอและขอใบรับรองแพทย์มาด้วย

นางบุญหลง ยังเล่าด้วยว่า เมื่อคิดย้อนหลังรู้สึกสงสารลูกมาก เพราะไม่ยอมเชื่อลูก ปล่อยให้ไปเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายทุกวัน จนต้องหนีโรงเรียน เพราะความกลัว จริงแล้ว ผอ. เป็นถึงผู้บริหารไม่ควรจะทำแบบนี้กับเด็กอายุเพียง 10 ปีเท่านั้น ทั้งลูกชายยังอยู่ในข่ายเป็นเด็กพิเศษ หัวสมองช้า

...

ขณะที่ ด.ช.เอ เล่าว่า สาเหตุที่ ผอ. ตบทุกวัน เพราะตนเขียนหนังสือผิด ซึ่งการตบแต่ละครั้ง ผอ. จะด่าไปด้วย ยอมรับว่าเจ็บและกลัวมาก ไม่กล้าหนี หรือแม้แต่จะร้องไห้ต่อหน้า ผอ.

จากการสอบถาม ผู้อำนวยการโรงเรียน ทราบว่า สาเหตุที่ไปสอนเพราะครูประจำชั้นได้ย้ายโรงเรียน จึงเข้าไปทำหน้าที่สอนแทน ยืนยันไม่ได้ตบเด็ก ทำแค่เอามือลูบและคลึงหัวเด็กเท่านั้น แต่ยอมรับว่าเสียงดัง เพราะอยากจะสอนให้เด็กมีวิชาความรู้ และทำเพียงครั้งเดียว คือการเอามือไปถูที่หัวลักษณะคลึงให้สมองลื่น.