ผู้เสียหายโผล่แจ้งตำรวจเพิ่มอีก 21 ราย กรณี ถูก “มาดามวิ” ประธานสโมสรฟุตบอลอุดร เอฟซี ชักชวนไปทำงานที่เกาหลีใต้ แต่ ไปไม่ได้ ล่าสุดมีแรงงานตกเป็นเหยื่อโร่เอาผิดแล้ว 30 ราย จากทั้งหมด 50-60 ราย ด้านจัดหางานจังหวัด อุดรฯเข้าพบพนักงานสอบสวนขอข้อมูล ย้ำคดีนี้แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะยอมคืนเงิน แต่เป็นความผิด พ.ร.บ.จัดหางาน รัฐเป็นผู้เสียหาย ยอมความไม่ได้ ขณะที่มาดามวิยังเก็บตัวเงียบ
กลายเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ กรณี น.ส.อริสรา ชะมูล หรือมาดามวิ ประธานสโมสรฟุตบอลอุดร เอฟซี ฉายาทีมยักษ์แสด ทีมฟุตบอลในลีก T 2 ของไทยพรีเมียร์ลีกถูกกลุ่มผู้ใช้แรงงาน 9 คนแจ้งความกล่าวหาว่าฉ้อโกงและความผิดตามพ.ร.บ.จัดหางาน หลังอ้างว่าสามารถพาไปทำงานประเทศเกาหลีใต้ได้ มีนายจ้างจากเกาหลีใต้รองรับแลกกับต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 2 หมื่นบาท แต่สุดท้ายเดินทางไปไม่ได้แถมเงินก็ไม่ได้คืน ขณะที่มาดามวิออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้จัดหางานแค่เป็น คนกลางระหว่างแรงงานกับนายจ้างในต่างแดนเท่านั้น
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ม.ค.มีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสียเงินสมัครไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้แล้วไม่ได้เดินทางไปทำงานทยอยเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเอาผิดกับ น.ส.อริสรา หลังไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน พ.ต.ท.ผลิตอรัญเผยว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แยกเป็นชุดแรก 9 คนและชุด 2 ที่เข้ามาแจ้งเพิ่มในรายชื่อเอกสารผู้เสียหายอีก 21 คนรวมเป็น 30 คน ตำรวจจะจัดชุดพนักงานสอบเพิ่มเพื่อสอบปากคำผู้เสียหายที่อยู่ใน จ.อุดรธานี หนองบัวลำภู และหนองคาย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ต่อมา ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ ติดตามข้อมูลเรื่องแรงงานถูกหลอกไปประเทศเกาหลีใต้เพื่อตรวจสอบบุคคลหรือบริษัทว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ว่าที่ ร.ท.อนุเทพกล่าวว่า ตำรวจประสานข้อมูลไปที่จัดหางานจังหวัดว่ามีการหลอกลวงคนหางานในพื้นที่อุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงอ้างว่าสามารถส่งไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ได้ต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 20,000 บาท มีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 50-60 คน
...
“หลังรับทราบข้อเท็จจริงและสอบถามผู้เสียหายพบว่ามีการชักชวนกันไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้จริง เหตุเกิดช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.65 ต่อเนื่องกัน ตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จแล้วก็จะตรวจสอบประวัติผู้ถูกกล่าวหาไปที่จัดหางานจังหวัดว่าเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทน ลูกจ้าง หรือสามารถส่งไปทำงานต่างประเทศได้หรือไม่” ว่าที่ ร.ท.อนุเทพกล่าว
จัดหางานจังหวัดอุดรธานีกล่าวอีกว่า ทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาสัญญาว่าจะคืนเงินให้ผู้เสียหายช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงกำหนดยังไม่ยอมคืน ครั้งนี้ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เป็นความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหายยอมความกันไม่ได้ แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะโทร.ติดต่อผู้เสียหายว่าจะคืนเงินให้ก็ยังมีความผิด พ.ร.บ.จัดหางาน มาตรา 91 ที่ระบุว่า ผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง อย่างไรก็ตามฝากไปถึงประชาชนว่าการจะไปทำงานต่างประเทศได้นั้นจะต้องได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จะต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตที่ถูกต้อง หรือสอบถามข้อมูลได้ที่จัดหางานจังหวัดอุดรธานี และสำนักงานจังหวัดแต่ละจังหวัดทั่วประเทศได้
ขณะที่นายวัชรดนัย ศิริสุขอภิรัมย์ อายุ 40 ปี ชาวอุดรธานี ตัวแทนผู้เสียหายให้ข้อมูลต่างๆกับ ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ จัดหางานจังหวัดอุดรธานี พร้อมทั้งนำรายชื่อและเอกสารหลักฐานของผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มอีก 21 คน กับที่แจ้งความก่อนหน้านี้รวมทั้งหมด 30 คน ไว้เป็นหลักฐาน นายวัชรดนัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมามาดามวิส่งข้อความถึงกลุ่มผู้เสียหายว่าจะคืนเงินให้ แต่เป็นการจ่ายผ่านเช็ค เมื่อผู้เสียหายเข้าสอบถามตำรวจกลับไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ได้โทร.สอบถามทราบว่ามีการถ่ายรูปเช็คมาให้พร้อมรายชื่อผู้เสียหาย จึงแจ้งไปว่าถ้าถ่ายรูปส่งมาให้แล้วจะขึ้นเงินได้อย่างไร
ตัวแทนผู้เสียหายกล่าวด้วยว่า สำหรับคนที่ตรวจ K-ETA ผ่านและมาดามวิพาบินไปที่ประเทศเกาหลีได้แล้วนั้นทราบว่าคนที่ไปแล้วตอนนี้ยังไม่มีงานทำ แต่สามารถอยู่ได้อีก 90 วัน แต่ในฐานะนักท่องเที่ยวเท่านั้น ถ้าไปทำงานจะถูกจับทันที ล่าสุดผู้ถูกกล่าวหายังประกาศทางไลน์ว่าสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนตรวจสอบเอกสารต่างๆผ่านจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 8,000 บาทต่อคนและยังมีคนโอนเงินไปให้เพื่อเตรียมบินอีกรอบในช่วงเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อมาดามวิเพื่อขอสัมภาษณ์รายละเอียดเพิ่มเติม กรณีมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความอีกหลายคน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ทราบอยู่ระหว่างเตรียมทีมอุดร เอฟซี ลงฟาดแข้งกับทีมอยุธยา ยูไนเต็ด วันที่ 29 ม.ค.นี้ ที่ จ.พระนคร ศรีอยุธยา อย่างไรก็ตามประวัติมาดามวิ เป็นชาว จ.อุดรธานีโดยกำเนิด ก่อนหน้านี้ประกอบธุรกิจอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีทั้งร้านอาหารไทย และธุรกิจส่งออก กระทั่งกลับมาอุดรธานีเกิดสนใจเกี่ยวกับวงการฟุตบอลไทย เป็นแฟนคลับทีมอุดรฯ เมื่อปี 2557 หลังโควิด-19 ระบาด ไม่สามารถกลับไปทำธุรกิจที่สิงคโปร์ได้ ก่อนมีโอกาสพูดคุยกับคณะผู้บริหารสโมสรในขณะนั้น กระทั่งคณะผู้บริหารชุดเดิมวางมือและเปิดโอกาสให้มาดามวิเข้ามาทำงานในเลกที่ 2