สองปีแล้ว ที่ไม่มีการประกวด และขบวนแห่เทียนพรรษา หนึ่งในไฮไลต์งานส่งเสริมการท่องเที่ยวของจ.นครราชสีมา และจ.อุบลราชธานี

จนกระทั่งปีนี้ มีการปลดล็อกโควิด ลงล็อกกับเทศกาลเข้าพรรษาพอดี งาน "แห่เทียนโคราช" จึงได้กลับมาจัดอีกครั้ง ท่ามกลางการเฝ้าระวังโควิดอย่างเข้มงวดแบบเดิม โดยที่จ.นครราชสีมา ขบวนต้นเทียนพรรษา ทยอยถูกนำโชว์ความอลังการที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์คุณย่าโม

เช้าวันที่ 13 กรกฎาคม ท่ามกลางบรรยากาศฟ้าฉ่ำฝนของวันอาสาฬหบูชา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ได้เป็นแม่งานจัดกิจกรรมงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประจำปี 2565 ในชื่อ "แห่เทียนโคราช" ระหว่างวันที่ 13-14 ก.ค. 2565

ตั้งแต่ช่วงสาย มีขบวนเทียนพรรษาจากคุ้มวัดอำเภอต่างๆ ทยอยมาถึงลานย่าโม ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายชุ่มฉ่ำ โดยมีขบวนเทียนจาก วัดเก่าประตูชัย อ.พิมาย ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป หลังเจอพิษโควิด-19 ต้องงดจัดงานแห่เทียนพรรษาไป 2 ปี

ปีนี้ห้ามตกแต่งทำเทียนล้อเลียนการเมือง!
ปีนี้ห้ามตกแต่งทำเทียนล้อเลียนการเมือง!

...

แม้ว่าทางเทศบาลนครนครราชสีมาซึ่งเป็นผู้จัดงานแห่เทียน สั่งห้ามทำเทียนล้อการเมือง แต่ขบวนเทียนและต้นเทียนที่ทางวัดต่างๆ ที่มีการแกะสลักวิจิตรตระการตา ด้วยเรื่องราวในวรรณคดีเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แฝงด้วยคติสอนใจ ยังดึงดูดความสนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน วัยรุ่น หันมาสนใจประเพณีแห่เทียนพรรษามากขึ้น 

 ถ่ายภาพ เซลฟี่ บรรยากาศเดิมๆเริ่มกลับมา
ถ่ายภาพ เซลฟี่ บรรยากาศเดิมๆเริ่มกลับมา

สำหรับขบวนแห่เทียนพรรษาจ.นครราชสีมา จะเริ่มในวันที่ 14 ก.ค. 2565 เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ไปตามถนนมหาดไทย เข้าสู่ถนนจอมสุรางค์ยาตร ถนนสุรนารี ถนนอัษฎาง ถนนจอมพล กลับมายังถนนชุมพล แล้วไปจอดหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ระยะทาง 7 กิโลเมตร เพื่อให้คณะกรรมการ ได้พิจารณา พร้อมให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามอย่างใกล้ชิด ได้ถ่ายรูป ถ่ายเซลฟี่ โดยมีการประชาสัมพันธ์ขอให้ทุกคนเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5

ที่พิเศษคือ ขบวนแห่เทียนในปีนี้ มีการแสดงของวงดุริยางค์จากโรงเรียนชื่อดัง อย่างโรงเรียนสุรนารีวิทยา และราชสีมาวิทยาลัยซึ่งเป็นทีมที่จะส่งเข้าประชันกับวงดุริยางค์ของ กทม.ตามคำท้าของนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าฯ กทม. เข้าร่วมขบวนแห่ด้วย

ชณะเดียวกัน ที่จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านคุ้มวัดไชยมงคล ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี ได้ช่วยกันเข็นรถบรรทุกต้นเทียนประเภทแกะสลัก ขนาดใหญ่ เคลื่อนออกมาจากโรงเทียนของวัด หลังช่างเทียนของวัดได้ร่วมกันใช้เวลากว่า 2 เดือน แกะสลักต้นเทียนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนา ออกมาด้วยความวิจิตรงดงามตระการตา ตามแบบฉบับภูมิปัญญาของช่างเทียนเมืองอุบลราชธานี เพื่อเข้าร่วมในขบวนแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2565 ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีจัดขึ้นเป็นครั้งแรก หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 ทำให้งดจัดงานไปถึง 2 ปี 

พระพุทธเจ้ากับนารายณ์บรรทมสินธุ์ แสดงถึงศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์
พระพุทธเจ้ากับนารายณ์บรรทมสินธุ์ แสดงถึงศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์

...

ในปีนี้ วัดไชยมงคล มีความตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะทำต้นเทียนแกะสลักขนาดใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเกิดความประทับใจ ในต้นเทียนของเมืองอุบล ซึ่งเป็นต้นกำเนิดศิลปะการทำต้นเทียน ใช้งบจัดทำกว่า 6 แสนบาท ส่วนหนึ่งใช้วัสดุที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุง เพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำต้นเทียนออกมาเป็นรูปท้าววิรูปักษ์ เทพเจ้าของนาค ซึ่งศรัทธาในพุทธศาสนา ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธเจ้ากับนารายณ์บรรทมสินธุ์ แสดงถึงศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์ ที่เชื่อมโยงถึงกัน และพญาครุฑ ในตอนท้าย หมายถึงพระมหากษัตริย์ ที่เป็นนารายณ์อวตาร

ภูมิปัญญา และฝีมือช่างเทียนแห่งเมืองอุบลราชธานี
ภูมิปัญญา และฝีมือช่างเทียนแห่งเมืองอุบลราชธานี

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงาน "เปิดเฮือน เยือนเมืองเทียน เมืองธรรม" มีกิจกรรมการแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ นำอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละอำเภอมาให้นักท่องเที่ยวได้ชม ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ระหว่างวันที่ 11-17 ก.ค. 65 ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง.

...