ลบสำนักฤๅษี "พระบิดา" ลัทธิประหลาดออกจากแผนที่ จนท.ชัยภูมิประกาศเป็นเขตหวงห้ามเข้า-ออก ตรวจสอบศพ 11 โลง และย้ายสัตว์เลี้ยงออกหาผู้อุปการะ ด้านบรรดาลูกศิษย์ต่างขนย้ายข้าวของออกกลางดึกวานนี้

กรณีลัทธิประหลาด หลังจากที่ทาง นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร จังหวัดชัยภูมิ และ พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย สว.(สอบสวน) สภ.คอนสาร นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นพ.สสจ.ชัยภูมิ ถือหมายศาลบุกเข้าตรวจสอบสำนักฤๅษีพระบิดา ลัทธิประหลาด หมู่ที่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ลัทธิประหลาด หรือ สำนักปฏิบัติธรรมเพี้ยน ซึ่งมีนายทวี หนันลา อายุ 74 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลโนนสะอาด อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น หรือ โจเซฟ ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม หรือ อาศรมดังกล่าว อีกรอบซึ่งเป็นรอบที่ 2 ในการตรวจสอบลัทธิประหลาดแห่งนี้เมื่อวานที่ผ่านมา (10 พ.ค. 65)

...

ในช่วงเช้าวันนี้ 11 พ.ค. 65 ทางเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายขนาดใหญ่ซึ่งเป็นป้าย กำหนดพื้นหวงห้ามที่เข้า-ออก ภายในเขตพื้นที่ โดยเขียนข้อความระบุ ด้วยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคอนสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร เจ้าหน้าที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคอนสาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ สำนักฤๅษีพระบิดา ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ ทำเลเลี้ยงสัตว์ กุดแคน หมู่ที่ 2 บ้านกุดแคน ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ พบว่ามีการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยมีลักษณะเป็นกระท่อม เพิงหลังคามุงหญ้า จำนวน 22 หลัง และ มีคนพักอาศัยอยู่ราว 30 คน ในจำนวนเนื้อที่ 26-45 ไร่ โดยมีพระฤๅษีพระบิดา หรือนายทวี หนันลา ซึ่งอ้างตนเป็นพระฤาษีของพระบิดา เป็นเจ้าสำนักปกครองดูแลอยู่

จากการตรวจสอบภายในอาคารพบว่า มีการนำศพมาเก็บไว้ในโลงกระจายอยู่ตามกระท่อมแต่ละแห่งรวม 11 ศพ จึงอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34 เรื่อง การกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะที่อาจเกิดเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไปประกอบกับคำสั่งจังหวัดชัยภูมิที่ 714/2565 เรื่องมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสูงของจังหวัดชัยภูมิ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลดงกลาง จึงขอประกาศให้พื้นที่ที่เกิดข้อพิพาทดังกล่าว เป็นพื้นที่หวงห้ามเข้า-ออก หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนภายในลัทธิประหลาดวันนี้ หลังจากมีการปิดทางเข้า-ออกแล้ว ทางผู้ที่นับถือลัทธิดังกล่าวได้ขนย้ายสิ่งของออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงเศษขยะ สิ่งของสกปรกกระจัดกระจายบริเวณภายด้านในไม่ว่าจะเป็นกระท่อมหลังใหญ่ และ กระท่อมหลังเล็กที่อยู่โดยรอบ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณลัทธิประหลาดแห่งนี้ ทั้งทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บอาหารที่คาดว่าเป็นสิ่งของที่นำไปขายให้ชาวชุมชนใกล้เคียงออกไปทั้งหมด เพื่อไปตรวจสอบและทำลาย

...

ขณะที่ นายสัญญา แสนเภา นักทรัพยากรบุคคล องค์การบริหารส่วนตำบลดงกลาง ได้เข้ามาประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงภายในลัทธิแห่งนี้ พร้อมจะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในสำนักแห่งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาช่วยขนสิ่งของในเบื้องต้น ส่วนทางรถที่จะใช้ขนย้าย ขอให้ทางผู้ที่จะขนย้ายนำมาเอง เพื่อส่งกลับภูมิลำเนา หลังจากที่ตนออกมาประกาศเพื่อเป็นไปตามกฎหมาย เพราะจะได้เป็นไปตามคำสั่งตามที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วว่ามีชาวลัทธิดังกล่าวนี้ออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่เมื่อคืนและเมื่อวาน แต่ยังมีสิ่งของที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทาง อบต.ดงกลางก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือหรือขนย้ายออกไป

...

ส่วน นางศรีสมัย โชติวณิช ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ในการส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เข้าร่วมตรวจสอบในพื้นที่พบว่าในพื้นที่ภายในสำนักประหลาด มีสาวกหรือลูกศิษย์นำสัตว์เลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหาร และเลี้ยงขายหลายอย่าง ประกอบด้วยวัว 11 ตัว ควาย 5 ตัว กวางพันธุ์รูซ่า 15 ตัว ไก่ไข่ประมาณ 35 ตัว ไก่พื้นเมืองจำนวนหนึ่ง ไก่งวงจำนวนหนึ่ง เป็ดเทศ ประมาณ 17 ตัว สุนัข ประมาณ 80 ตัว แมว 20-28 ตัว อีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา จำนวน 24 ตัว ในเบื้องต้นได้ให้อาหารคือฟางแห้งอัด 6 ก้อนนำไปให้วัว ควายได้กินเป็นอาหาร ซึ่งได้แจ้งผู้เป็นเจ้าของสัตว์ โค-กระบือ หากจะขอนำออกไปเลี้ยง ได้แนะนำหาหลักฐานการเป็นเจ้าของผู้ครอบครองมายื่นต่อฝ่ายปกครองดำเนินการสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งกวางพันธ์รูซ่า จะประสานสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ จ.ชัยภูมิ เข้ามาดูแลด้วย ส่วนสุนัข แมว ต้องนำมาทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ทุกตัว พร้อมหาผู้อุปการะที่ต้องการนำไปเลี้ยงต่อไป.

...