เตรียมรื้ออาศรมพระบิดา เจ้าสำนักเพี้ยนกินฉี่รักษาโรค หลังถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา ได้ประกันแล้วหายไร้ร่องรอย สาวกเผ่นตาม ขณะที่ ผวจ.เตรียมรื้อคืนพื้นที่ให้หมู่บ้าน ด้านญาติเตรียมนำศพแม่ไปบำเพ็ญกุศล หลังเจ้าลัทธินำใส่โลงโดยไม่ฉีดฟอร์มาลีน    

จากกรณี นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี อ้างเป็นพระบิดาทุกศาสนา ตั้งสำนักในพื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รักษาโรคโดยวิธีพิสดาร ให้กินน้ำปัสสาวะ น้ำล้างขี้ไคล ท่ามกลางสาวกผู้เลื่อมใสศรัทธาร่วม 30 คน ที่พากันเรียกว่า “พระบิดา” ในสถานที่ดังกล่าวพบโลงศพจำนวนมาก เป็นศพของผู้ที่มารักษาแล้วเสียชีวิต ต่อมา นายทวี ถูกดำเนินคดี ข้อหา 1.บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ 2.รักษาโรค ผิด พ.ร.บ.เวชกรรม ที่ไม่เป็นไปตามหลักสาธารณสุข 3.เคลื่อนย้านจัดการศพ และ 4.ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรม หรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ก่อนได้ประกันตัว เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.

ล่าสุดวันที่ 10 พ.ค. หลังได้ประกันและหายตัวไป ที่สำนักของนายทวี หรือพระบิดา ปรากฏว่าลูกศิษย์ผู้ที่นับถือได้เร่งเก็บของเดินทางออกจากสำนัก โดยมีเจ้าหน้าที่ อส. และ อสม.รอตรวจค้นบริเวณปากทางเข้าอย่างละเอียด ขณะที่ชาวบ้านได้นำป้ายมาแขวนไว้ตามต้นไม้ ระบุว่า ชาวอำเภอคอนสารไม่เอาลัทธินี้ ส่วนตัว นายทวี หรือโจเซฟ ผู้อ้างตัวเป็นพระบิดา หลังจากที่ศาลให้ประกันก็หายตัวไป ขณะที่ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เตรียมลงพื้นที่เพื่อปิดอาศรม และคืนที่ดินให้เป็นสาธารณประโยชน์ชาวบ้านใช้ร่วมกันต่อไป

...

ขณะเดียวกัน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น บ้านเกิด นายทวี หรือฤาษี หนันลา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไร่อ้อยเนื้อที่ 16 ไร่ ที่ฤาษีทวียกให้กับ นายทองทิพย์ หนันลา อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นน้องชายคนสุดท้อง พบว่า ที่ดินดังกล่าวมีการปลูกอ้อยไว้เต็มพื้นที่ และจากการพูดคุยกับ นายบุญตัน หนันลา อายุ 77 ปี พี่ชายฤาษีทวี เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายทองทิพย์ น้องชายคนเล็กเดินทางไปประกันตัวฤาษีทวีเมื่อวานนี้ โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราวเมื่อช่วงประมาณ 19.00 น. วานนี้ แต่ฤาษีทวีไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย และไม่ทราบว่าไปที่ไหน หรือไปกับใคร เพราะไม่ได้พูดคุยกันเลย เบื้องต้นไม่ได้มีความเป็นห่วงน้อง เนื่องจากเชื่อว่ามีลูกศิษย์ลูกหาหลายคนที่ต้องการรับตัวไปดูแล อาจจะเป็นจังหวัดอุดรธานี หรือมหาสารคาม ซึ่งเชื่อว่าน้องชายจะได้รับการดูแลอย่างดี ส่วนที่ดิน 16 ไร่นั้นเป็นที่ดินมรดกที่พ่อแม่แบ่งให้พี่น้อง 4 คน และหลังจากที่ฤาษีทวีเข้าสู่ทางธรรมก็ยกที่ดินดังกล่าวให้น้องคนสุดท้องคือนายทองทิพย์ไป โดยนายทองทิพย์ได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้เช่าปลูกอ้อยสร้างรายได้ ส่วนอนาคตจะทำอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับน้องชาย

นายบุญตัน บอกอีกว่า เรื่องการย้ายศพแม่จากที่พักของน้องชายใน อ.คอนสาร ต้องมีการพูดคุยกับญาติๆ ทั้งหมดก่อน โดยเบื้องต้นตั้งใจให้เรื่องนี้ซาลงไป และนักข่าวเลิกติดตามก่อน ซึ่งตนไม่อยากจะให้ผิดใจกันระหว่างญาติพี่น้อง เพราะเรื่องการจะนำศพแม่มาทำพิธีทางศาสนาเป็นสิ่งที่ต้องทำแน่นอน เพราะตั้งใจจะทำมานานแล้ว แต่สภาพศพตอนนี้อาจจะยังเคลื่อนย้ายไม่ได้ ไม่อยากให้มีภาพหลุดออกไป เพราะอาจจะไม่น่าดูเท่าไร หรืออาจจะส่งกลิ่นได้ ขณะนี้มองๆ เอาไว้ว่าสถานที่ที่จะนำแม่มาฌาปนกิจอาจจะเป็นวัดในหมู่บ้านโนนสะอาด หรือวัดใกล้บ้านก็เป็นได้.