นักท่องเที่ยวรับกระเป๋าเดินทางจากแท็กซี่ป้ายดำอุบลฯ หลังคนขับไปเข้าห้องน้ำแล้วทิ้งผู้โดยสารในปั๊มน้ำมัน โดยมีตำรวจ สภ.เมืองอุบลฯ และ ผอ.สนามบินเป็นสักขีพยาน การประสานความเข้าใจและรับคำขอโทษ
จากกรณี นายลำซำ แซ่หล่ำ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง และนางสาวปวีณา พวงผกา อายุ 32 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สุธีรพันธ์ ทาปศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี หลังถูกแท็กซี่ป้ายดำจากสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี ปล่อยทิ้งในปั๊มน้ำมันระหว่างทางไปอำเภอเขมราฐ เชิดกระเป๋าเสื้อผ้าสัมภาระ 3 ใบหายเข้ากลีบเมฆ สูญทรัพย์สินกว่า 1 แสนบาท ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 มี.ค. 65 นายลำซำ แซ่หล่ำ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง และนางสาวปวีณา พวงผกา อายุ 32 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระที่อยู่ท้ายรถแท็กซี่ป้ายดำของ นายชัยวัฒน์ รองทอง อายุ 61 ปี หลังจากที่หายตัวไปหลังจากถูกว่าจ้างให้ไปส่งที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านปลาดุก ถนนอุบล-ตระการ โดยมีการพูดคุยปรับความเข้าใจระหว่างนายชัยวัฒน์และนักท่องเที่ยวทั้งสองคน กรณีที่ไม่ได้อยู่รอผู้โดยสารขณะเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำของปั๊ม โดยมีพันตำรวจโทอภินันท์ ปลื้มมะลัง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี นายเสกสรรค์ ขวัญวงค์ รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ร่วมเป็นสักขีพยานในการคืนทรัพย์สิน เบื้องต้นทั้งคู่ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง จึงได้ขอโทษและตกลงกันได้ด้วยดี
...
ด้านนายลำซำ เปิดเผยว่า ดีใจที่ได้ทรัพย์สินคืนทั้งหมด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ช่วยดำเนินการติดตามกระเป๋าให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ส่วนในเรื่องของกลางคดีขอให้เป็นในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณา ส่วนหน่วยงานของอุบลราชธานีอยากให้มีการปรับปรุงพัฒนาเรื่องข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงาน หรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้มีการอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อจะได้ประสานงานอย่างมีคุณภาพหากเกิดปัญหาต่อไป.