ช่วงเข้าสู่หน้าหนาว ชาวประมงลุ่มน้ำโขง จับปลายี่สกไทย ชุดแรกของฤดูวางไข่ปีนี้ได้ 20 ตัว พบตัวใหญ่สุดเป็นปลาตัวเมีย หนัก 40 กิโลกรัม โดยราคาตามท้องตลาดทั่วไปรับซื้อกันอยู่ที่ 130 บาทต่อกิโลกรัม

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ชาวประมงพื้นบ้านลงเรือจับปลายี่สกไทยตัวใหญ่สุดหนักถึง 40 กิโลกรัมขณะที่ สำนักงานประมงจังหวัดมุกดาหารร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมุกดาหารดำเนินโครงการอนุรักษ์ “ปลายี่สกไทย” หรือ “ปลาเอิน” โดยตั้งแคมป์เพาะพันธุ์ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านสองคอน ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร โดยการตั้งแคมป์รับซื้อปลาจากชาวบ้านในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดเพื่อที่จะเพาะพันธุ์

โดยที่ผ่านมาชาวประมงจับปลายี่สกไทยชุดแรกของฤดูวางไข่ปีนี้ได้ 20 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ประมงได้เข้าไปรอรับซื้อปลาตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำมาที่แคมป์จากนั้นก็จะมีการรีดไข่จากตัวเมีย แล้วฉีดฮอร์โมนให้ เพื่อเพาะพันธุ์ จากนั้นอนุบาลลูกปลาไว้สำหรับปล่อยคืนสู่แม่น้ำโขงและแหล่งน้ำอื่นๆ ต่อไป โดยดำเนินการต่อเนื่องสำหรับจากหลายปีที่ผ่านมา โดยการจับปลาของชาวประมงที่บ้านสองคอน ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว เพราะปลาจะว่ายทวนน้ำจากทางใต้ของแม่โขงขึ้นมาที่บริเวณจุดร่องน้ำลึกที่บ้านสองคอน และวางไข่ ซึ่งชาวบ้านสามารถจับปลาได้ต่อเนื่อง โดยพบตัวใหญ่สุดเป็นปลาตัวเมียประมาณ 40 กิโลกรัม โดยราคาตามท้องตลาดทั่วไปรับซื้อกันอยู่ที่ 130 บาทต่อกิโลกรัม

...

สำหรับ “ปลายี่สกไทย” หรือ “ปลาเอิน” เป็นปลาน้ำจืดในวงศ์ปลาตะเพียน จัดเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่จำพวกหนึ่งในวงศ์นี้ โดยขนาดเมื่อโตเต็มที่อาจยาวได้ถึง 130 เซนติเมตร ปลาตัวเมียเมื่อถึงฤดูวางไข่อาจมีน้ำหนักตัวถึง 40 กิโลกรัม กระจายพันธุ์อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขงและที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย เป็นปลาที่มีรสชาติอร่อยมาก จึงถูกจับจนใกล้จะสูญพันธุ์แล้วในธรรมชาติ ทางกรมประมงจึงเร่งเพาะขยายพันธุ์ด้วยวิธีการผสมเทียม ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะช่วยอนุรักษ์ไว้ให้ยั่งยืน