น้ำท่วมชัยภูมิตัวเมืองถนนยังวิ่งได้แต่รถใหญ่ ถนนสาย 201 ยังใช้ไม่ได้ หลายชุมชนเริ่มลำบาก เทศบาลเมืองต้องนำข้าวกล่องไปแจกวันละหมื่นกล่อง พื้นที่การเกษตรจม 2 แสนไร่ สลดชาวบ้านจมน้ำตาย 3 ศพ
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังวิกฤติต่อเนื่องแม้ว่าฤทธิ์พายุเตี้ยนหมู่จะอ่อนแรงลง และฝนพอจะเริ่มหยุดตกในพื้นที่บ้างแล้วก็ตาม แต่ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนที่มีทั้งหมดภายในจังหวัดชัยภูมิในพื้นที่ 16 อำเภอ ก็ยังมีปริมาณน้ำเกินความจุเกิน 100% ทั้งหมดแล้ว รวมทั้งปริมาณน้ำป่าหลากจากทั้งเทือกเขาภูเขียว เทือกเขาภูแลนคา และเทือกเขาพังเหย ในพื้นที่ก็ยังไหลทะลักลงสู่แม่น้ำชีที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำชี หล่อเลี้ยงชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน มาช้านานเกือบทั้งภาค ระดับน้ำหลากยังคงหนุนสูงหลากเข้าท่วมพื้นที่ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องนานกว่าสัปดาห์แล้ว
รายงานเบื้องต้นหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิ พบมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหายรวมแล้วกว่า 228,840 ไร่ หนักสุดในเขตอำเภอเมืองย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง รวมแล้วอีกกว่า 68,324 ไร่ และ จ.ชัยภูมิ ได้ประกาศให้มีพื้นที่เป็นเขตประสบภัยพิบัติน้ำท่วมหนักแล้วรวม 14 อำเภอ จาก 16 อำเภอ ประกอบด้วย 1.อ.เมืองชัยภูมิ 2.อ.คอนสวรรค์ 3.อ.เนินสง่า 4.อ.บ้านเขว้า 5.อ.จัตุรัส 6.บำเหน็จณรงค์ 7.อ.เทพสถิต 8.อ.ภักดีชุมพล 9.อ.หนองบัวระเหว 10.อ.หนองบัวแดง 11.อ.เกษตรสมบูรณ์ 12.อ.ภูเขียว 13.อ.คอนสาร และ 14.อ.บ้านแท่น (เหลือเพียง 2 อำเภอที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติคือ อ.แก้งคร้อ และ อ.ซับใหญ่)
ขณะที่ระดับน้ำท่วมได้รับความเสียหายหนักเริ่มกระจายวงกว้างหนักในอีกกว่า 6 อำเภอ ในเขต อ.เมืองชัยภูมิ, อ.จัตุรัส, อ.บำเหน็จณรงค์ (ซึ่งเป็นอำเภอที่ตั้งแต่มีการตั้งโรงพยาบาลประจำอำเภอมา คือ รพ.บำเหน็จณรงค์ ที่ถูกน้ำท่วมหนักได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดระดับน้ำท่วมในพื้นที่เริ่มลดลงบางส่วน แต่ใจจุด รพ.ก็ยังมีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ที่ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ดำเนินการซ่อมแซมความเสียหายภายใน รพ.ในขณะนี้ได้ ต้องรอจนกว่าระดับน้ำจะลดต่อไปอีกระยะ และคาว่าจะใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์) อ.เกษตรสมบูรณ์, อ.หนองบัวระเหว และ อ.คอนสาร ที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง ได้รับความเสียหายในอีกหลายตำบลอีกนับพันหมู่บ้าน ที่ประชาชนยังถูกตัดขาดมีระดับน้ำหลากรุนแรงท่วมสูงกว่า 2-5 เมตร และมีกำลังของเจ้าหน้าที่ยังมีไม่เพียงพอ ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิได้เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากภายนอกจังหวัดรวมทั้งกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 เข้ามาช่วยสมทบในพื้นที่ออกให้การช่วยเหลือประชาชนที่ยังเดือดร้อนในขณะนี้อีกจำนวนมากต่อเนื่องในตลอด 24 ชั่วโมง ในตลอดช่วงเกิดน้ำท่วมหนักในช่วงตลอด 3 วันที่ผ่านมายังต่อเนื่อง
...
หลังจากแม่น้ำชีไหลหลากหนุนสูงเข้ามาท่วมในอีกหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ตัวอำเภอเมืองชัยภูมิ และโซนเศรษฐกิจทั้งหมด เส้นทางสัญจรตามถนนหลักต่างๆ มีระดับน้ำท่วมสูง รถทุกชนิดไม่สามารถเข้าถึงตัวเมืองชัยภูมิได้บางส่วนเกือบทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเส้นทางสายทางหลวงหมายเลข 201 สีคิ้ว-ชัยภูมิ ที่จะเชื่อมเป็นเส้นทางให้ประชาชนเดินทางมาจากพื้นที่กรุงเทพฯ และ จ.นคราชสีมา ที่จะใช้เส้นทางนี้สายประตูสู่อีสานผ่านตัวเมืองชัยภูมิ น้ำท่วมถนนสูงยาวไปจนถึงตำบลบ้านค่าย ตำบลหนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ ทำให้ไม่สามารถใช้เส้นทางนี้ผ่านเข้าตัวเมืองชัยภูมิได้แล้ว จะต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางในจุดผ่านทางอำเภอสีดา และผ่านมาที่ อ.บัวใหญ่ ได้บางส่วนแทนในขณะนี้พอได้ แต่ก็ยังเป็นไปด้วยความลำบากผ่านเข้ามาได้ยากในขณะนี้ด้วย
ล่าสุดทางด้านแขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิ โดยนายวิชัย พลอยกลม ผอ.ขทช.ชัยภูมิ แจงสรุปข้อมูลถนนสายทางในโครงข่ายทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิที่ประสบอุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ประจำวันวันที่ 28 กันยายน 2564 มีจำนวนหลายสายทาง จำนวนทั้งสิ้นแล้ว 55 สายทาง ประสบอุทกภัยแล้วจำนวน 20 สายทาง สัญจรได้จำนวน 13 สายทาง สัญจรไม่ได้จำนวน 7 สายทาง เพราะเกิดน้ำท่วมขัง และโครงสร้างทางชำรุด จำนวน 5 สายทาง สะพานชำรุด จำนวน 2 สายทาง แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากที่ไม่สามารถผ่านเข้า-ออกจังหวัดชัยภูมิได้ในขณะนี้ โดยมีแนวทางดังนี้
1.ได้บูรณาการกับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ช่วยตรวจตรา เฝ้าระวังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยแหลือ อำนวยความสะดวกประชาชนในพื้นที่ไว้ประจำแต่ละจุดที่เสี่ยงอันตรายเกิดน้ำหลาก
2.ได้ติดตั้งป้ายแนะนำทางเลี่ยง ป้ายเตือน ก่อนถึงตำแหน่งประสบเหตุ และติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยที่ตำแหน่งประสบเหตุทั้งสองฝั่งเพื่ออำนวยความปลอดภัยแก่ประชาชนและผู้สัญจรบนเส้นทาง
3.กรณีสะพานชำรุด คอสะพานขาด เพื่อไม่ให้เส้นทางถูกตัดขาด ได้ขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 (นครราชสีมา) เพื่อพิจารณาติดตั้งสะพานเหล็กชั่วคราว (Baily Bridge) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน 4.จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจตรา เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายน้ำลด 5.จัดชุดอำนวยความสะดวกทั้งในส่วนของแขวงทางหลวงชนบท และหมวดบำรุงทางหลวงชนบทออกบริการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 6.ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์และบูรณาการกับหน่วยงานจังหวัดที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน และ 7.เมื่อสถานการณ์ลดความรุนแรงลง จะรีบสำรวจรายละเอียดความเสียหาย เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการซ่อมฟื้นฟูสภาพ หรือแก้ไขปัญหาระยาวตามลักษณะความเสียหายได้โดยเร็วต่อไป
...
ขณะที่ในช่วงระดับน้ำชีหนุนสูงหลากทะลักเข้าท่วมอีกหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ยังเกิดเหตุสลดน้ำพัดเสียชีวิตวันเดียวอีกรวม 3 ราย ซึ่งเกิดเหตุเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 กันยายน 2564 ทางด้าน ร.ต.อ.เรืองศิลป์ ปะวิสุทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดใหญ่ รับแจ้งว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิต 2 ราย บริเวณกลางทุ่งนาบ้านโนนหว่านไพร หมู่ที่ 5 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบร่างหญิง 2 ราย ถูกชาวบ้านใกล้เคียงช่วยนำขึ้นมาจากน้ำแล้ว หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯหลายหน่วยงานเข้ามาในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้ผ่านมาเจอเหตุพอดีและเข้าช่วยเหลือนำศพขึ้นมาจากน้ำ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อ 1.น.ส.ศิริพร พันธ์โสภณ อายุ 29 ปี (ซึ่งเป็นพี่สาว) ชาวบ้านตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ 2.น.ส.หฤทัย พันธ์โสภณ อายุ 28 ปี น้องสาว อยู่บ้านเดียวกัน
สอบถามไปยัง นายแดง พันธ์โสภณ อายุ 65 ปี บิดาของสาวผู้เสียชีวิต และนางสมหมาย มิตรมาก อายุ 63 ปี ชาวบ้านลาดใหญ่ ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อน้องสาวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คน แม่และลูก คือสาวอีก 2 รายที่จมน้ำเสียชีวิต ได้พากันออกจากบ้านมารวม 3 คน แม่ 1 คน ลูก 2 คน เพื่อที่จะเดินลุยน้ำไปหาพ่อที่ทุ่งนาใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งบริเวณดังกล่าวต้องเดินทางถนนที่ถูกน้ำท่วม มีกระแสน้ำไหลผ่านเชี่ยวแรง ระหว่างเดินผ่านทั้ง 3 คน ก็ถูกกระแสน้ำพัดร่างไหลลงน้ำ ก่อนที่พี่สาวและน้องสาว เด็กสาวทั้ง 2 คนจะกอดกันจมหายไป ส่วนแม่นั้นเกาะกิ่งไม้บริเวณใกล้เคียงไว้ได้ และพยายามบอกให้พี่สาวปล่อยตัวน้องสาวเพื่อเกาะกิ่งไม้ แต่พี่สาวห่วงน้องไม่ยอมปล่อย ลูกสาวทั้ง 2 คนจึงถูกพัดจมหายลงไปในน้ำเสียชีวิตไปพร้อมๆ กันอย่างน่าสลดในครั้งนี้ต่อหน้าแม่ที่พยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยผ่านมาพบและเข้าช่วยก็ไม่ทันแล้ว
...
ด้าน ร.ต.อ.เรืองศิลป์ ปะวิสุทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดใหญ่ หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ ที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต ก่อนมอบร่างให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไปใน 2 รายแรกในครั้งนี้
วันเดียวกันยังมีรายงานเกิดเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าเพิ่มอีก 1 ราย ที่ทาง จนท.ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุพบร่างคนจมน้ำเสียชีวิตชื่อ นายชยนันต์ แซ่ลิ้ม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองชัยภูมิ และยังเป็นหัวหน้าชุดหน่วยงานจิตอาสา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรับแจ้งช่วยเหลือประชาชนในการออกไปช่วยจับสัตว์มีพิษ หรืองูเข้าบ้าน ซึ่งคาดว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว และระหว่างได้รับแจ้งว่าให้ออกจากบ้านที่บ้านเขาเองขณะนี้ก็ถูกน้ำท่วมสูงอยู่ในขณะนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดว่าระหว่าง จนท.จิตอาสารายนี้ออกจากบ้านเดินฝ่าน้ำท่วมออกไปเกิดโรคประจำตัวความดันกำเริบ จึงล้มจมน้ำเสียชีวิตครั้งนี้ จนศพลอยอืดและมีคนไปพบร่างในเช้าวันนี้แล้ว.
...