ภายหลังโลกออนไลน์ แชร์เรื่องราว และภาพของนายธรากร ทองหนูนุ้ย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี ครอบครัวยากจน แต่สามารถสอบติดอันดับ 1 เตรียมทหารรอบแรก (ด้านวิชาการ) ได้อันดับที่ 1 ทั้ง 3 เหล่าทัพ ทบ. ทอ. ทร. แถมด้วยโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่สอบได้ที่ 8

ตัดสินใจ เรียนที่ จปร. 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ทราบจาก นางสาวรดาชา ถุงสูงเนิน อายุ 45 ปี มารดานายธรากร ว่า นายธรากร ได้เข้ามอบตัวเป็นนักเรียนเตรียมทหารเรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ใหญ่จากหลายภาคส่วนยื่นมือเข้าช่วย ขณะที่ทางโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช และสมาคมศิษย์เก่าเบ็ญจะมะมหาราช สถานศึกษาเองก็สนับสนุน มอบเงินให้กับลูกชายด้วย

ได้ที่ 1 ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ-ที่ 8 ตำรวจ 

นางสาวรดาชา ถุงสูงเนิน เผยว่า ปีนี้ลูกชายสอบติด ทหารบก ทหารอากาศ ทหารเรือ ได้อันดับที่ 1 และตำรวจได้ที่ 8 ในรอบวิชาการ ลูกได้เลือกที่จะเข้าทหารบก เนื่องจากโรงเรียน จปร. ได้ให้โอกาส ลูกชายที่มีปัญหาเรื่องสายตาสั้น ไม่สามารถแก้ไขสายตาได้ เพราะค่ากระจกตาบาง หากทำการรักษามีโอกาสเสี่ยงที่จะตาบอด ซึ่งหมอที่ดูแลได้แนะนำให้เปลี่ยนสายเรียน แต่ตัวเองมองว่าลูกอยากที่จะเป็นทหารอาชีพ จึงมาดูเรื่องกฎระเบียบ ซึ่งทางโรงเรียน จปร. อนุญาตให้ผู้ที่มีค่าสายตาสั้นไม่เกิน 150 เอียงไม่เกิน 75 เข้าเรียนได้ และลูกก็มีค่าสายตาไม่เกินข้อกำหนดในกฎระเบียบของทางโรงเรียน จึงได้ตัดสินใจเลือกที่นี่ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วลูกชายก็สอบติดมาแล้ว ทั้ง 4 เหล่าทัพ ทหารบก ได้อันดับที่ 82 ทหารเรือ ได้อันดับที่ 139 ทหารอากาศ ได้อันดับที่ 155 ตำรวจน้ำ ได้อันดับที่ 128 และตำรวจได้อันดับที่ 214 

เคยสอบติด เลือก "ทร." ตรวจร่างกายไม่ผ่าน

...

นางสาวรดาชา กล่าวอีกว่า เดิมทีลูกชายเรียนอยู่ที่ศรีสะเกษ ต่อมาจึงตัดสินใจไปเรียนที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี และถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ตอนนั้นลูกบอกว่ายังบอกไม่ได้ ยังค้นหาตัวเองไม่ได้ จึงบอกไปว่า ให้ค้นหาตัวเองว่าน้องอยากเป็นอะไร แต่ให้พยายามหาอะไรก็ตามที่สอบเข้าไปแล้วมีทุนช่วย เพราะพ่อกับแม่อาชีพไม่มั่นคง รายได้ไม่แน่นอน บางเดือนมี บางเดือนไม่มี พยายามช่วยพ่อกับแม่ด้วย ซึ่งลูกก็ตั้งใจเรียนมาตลอด จนกระทั่งม.2 ลูกชายได้บอกกับตนว่าอยากเป็นทหาร อยากเรียนเตรียมทหาร ตอนนั้นมีข่าวเรื่องน้องเมย และตนมีลูกชายเพียงคนเดียว จึงยังไม่อนุญาตให้ลูกได้เรียน ให้ตัดสินใจใหม่ จนม.3 ตนได้ถามลูกใหม่อีกรอบลูกก็ยังยืนยันคำเดิมว่าอยากเป็นทหาร จึงได้กลับมามองว่า หากลูกเรียนแค่ในระบบอย่างเดียวและไม่มีการติวก็คงยากที่จะสอบติด จึงได้หาที่ติวให้กับลูก โดยเริ่มจากติวที่ในจังหวัดอุบลราชธานี จากนั้นได้มาติวที่จังหวัดราชบุรี ช่วงปิดเทอมม.3 ขึ้นม.4 ตั้งแต่เดือนมีนา ปี 62 โดยเรียนออนไลน์ และช่วงปิดเทอมก็ส่งเข้าค่ายแล้วลูกชายก็สอบติดตั้งแต่ปีแรก ปี 63 แต่ก็ผิดหวัง เนื่องจากตอนนั้นเลือกทหารเรือ ตรวจร่างกาย สอบพละ สอบสัมภาษณ์ แต่วันประกาศก็ไม่ติดแม้กระทั่งตัวสำรอง เพราะแพทย์ไม่ให้ผ่าน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสายตาสั้น 50 ตาขวาปกติ

พ่อจำนำทะเบียนรถบรรทุก สานฝันลูก

"หลังจากนั้น ลูกชายได้กลับไปเรียนในระดับชั้น ม.5 ในเดือนแรกยังไม่มีเงินเสียค่าเทอมได้ ขอติดไว้ก่อน ซึ่งในตอนนั้นลูกชายได้เรียนห้องพิเศษ และมีการบ้านเยอะ ประกอบกับเรียนออนไลน์จากจังหวัดราชบุรี จนกระทั่งผลสอบออกมาพบว่าคะแนนสอบได้ต่ำกว่าเกณฑ์ซึ่งผิดปกติจากระดับที่เคยรักษามาตลอด โดยลูกบอกว่า ไม่มีเวลาทบทวนเพราะการบ้านเยอะ ลูกจึงบอกว่าขอดรอปได้ไหม จึงถามว่าจะดรอปจริงหรือเ พราะไม่มีเงินนะ ลูกจึงได้บอกว่า ต้องทำยังไงถึงจะได้ดรอป จึงได้ปรึกษากับพ่อของลูกชาย (สามี) ตัดสินใจนำทะเบียนรถบรรทุกไปจำนำ เพื่อเอาเงินมาส่งลูกเรียน 4 เดือนตั้งแต่เดือน ธ.ค.63 - มี.ค 64 เป็นคอร์สพื้นฐานในการเตรียมตัวเข้าสอบครั้งนี้ และก็สามารถสอบติดทั้ง 4 เหล่าทัพ"

หยุดสร้างบ้าน ยอมเป็นหนี้ เพื่อลูกชาย

ส่วนเรื่องการเลี้ยงดู ก็เลี้ยงปกติทั่วไป เล่นดินทรายเหมือนเด็กทั่วไป เนื่องจากเมื่อก่อนครอบครัวเคยขายกล้ายาง เวลาเสาร์อาทิตย์ไม่อยู่ ลูกก็สามารถขายของแทนได้ ปิดเทอมก็จะช่วยพ่อเดินเอกสาร ส่งของ จนกระทั่งช่วงหลังรู้ว่า ลูกอยากเป็นทหารจึงได้พยายามส่งเสริมลูกเต็มที่ทุกทาง โดยเฉพาะสถาบันที่จะให้ลูกไปเรียนจะพยายามเลือกที่ที่ดีมีมาตรฐานที่สุด ที่สามารถส่งให้กับลูก ขณะที่บ้านทีศรีสะเกษ ได้สร้างใหม่ 1 หลัง เมื่อปี 60 บนที่ดินที่ซื้อเอาไว้ ซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากเงินหมดไปกับการซ่อมรถบรรทุก และมีเหตุให้ต้องใช้เงินตลอด ทำให้ไม่มีเงินทำบ้านต่อ อีกทั้งประกอบกับการใช้ชีวิตหลักจะอยู่บนรถมากกว่า ดังนั้น เงินที่ได้มาก็จะทุ่มไปกับการศึกษาของลูกทั้งหมด เลยไม่ได้ทำบ้านต่อ ตั้งแต่ปี 60

"ในวันที่รู้ว่าลูกชายสอบติด หลังจากที่ได้ทุ่มแรงทุ่มทุกอย่างให้กับลูก วันนั้นนอนไม่หลับ ดีใจมาก และเป็นที่เกินความคาดหมาย เพราะไม่คิดว่าลูกจะได้ที่ 1 ซึ่งที่ผ่านมาลูกจะบอกว่าอย่าคาดหวังมาก จึงบอกว่าผลสอบแม่ขอเลขตัวเดียวนะ ให้สมกับที่แม่ยอมเป็นหนี้เป็นสินส่งให้เรียนซึ่งลูกบอกว่า ไม่ขอรับปากแต่จะพยายามทำให้อยู่ในอันดับไม่เกิน 50 และขออย่ากดดัน ซึ่งก็ได้บอกว่า แม่ก็จะไม่กดดัน"

ภูมิใจลูกเป็นเด็กดี แม้แทบไม่ได้อยู่ด้วยกัน

คุณแม่รดาชา กล่าวด้วยความภาคภูมิใจด้วยว่า แล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ตนได้มาส่งมอบลูกเข้าสถานศึกษาวันแรก รู้สึกภูมิใจที่ลูกทำตามความฝันได้ ตนได้ร้องไห้ด้วยความดีใจ รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ภูมิใจในตัวลูก ลูกเป็นเด็กดี พยายามช่วยพ่อกับแม่ทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ผ่านมา เราจะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน เพราะตนและพ่อของลูกทำแต่งาน ซึ่งลูกต้องใช้ชีวิตคนเดียวตั้งแต่ม.1 ตอนนั้นส่งไปเรียนที่ จ.อุบลฯ ก็ให้เช่าหออยู่ บางครั้งก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาลูกสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง บางช่วงก็ 2-3 สัปดาห์ครั้ง และบางทีก็ 2-3 เดือนไปเจอลูกที ที่ผ่านมาลูกจะช่วยเหลือตัวเองตลอด

...

บิ๊กแดง อดีตผบ.ทบ.มอบทุนช่วยเหลือรายปี

โดยตอนนี้ ผบ.โรงเรียน จปร. ได้สนับสนุนค่าขนมเดือนละ 2,000 บาท จนกว่าจะเรียนจบ ด้านพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผบ.ทบ. ก็จะช่วยเหลือเป็นรายปี แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด รวมถึงยังมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งขอขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านที่เมตตาน้อง ในส่วนเงินที่จะช่วยเหลือนั้น จะให้โอนเข้าบัญชีของลูกโดยตรง เพราะตั้งใจเอาไว้ให้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูก ให้ลูกได้เรียนถึงระดับดอกเตอร์

ด้านนายกิติศักดิ์ กุมภรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช กล่าวถึงนายธรากรว่า

"นายธรากรเป็นเด็กที่มีความขยัน เข้าเรียนที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราชตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ระหว่างที่เรียน นายธรากร ยังปฏิบัติหน้าที่เป็นนักเรียนชุดตรวจวินัย เป็นเด็กที่มีวินัย ไม่ละทิ้งหน้าที่ เป็นบุคคลต้นแบบคนดีศรีเบ็ญจะมะ"