ครูสอนวิทยาศาสตร์ ที่บุรีรัมย์ ใช้วิธีลงโทษนักเรียนที่ไม่ส่งการบ้าน 20 คนด้วยวิธีโบราณ “ขายขนมจีบ” ใช้แปรงลบกระดานเคาะปลายนิ้วจนเด็กบาดเจ็บห้อเลือด แม่โพสต์ถาม จิตใจครูทำด้วยอะไร เด็กเจ็บจนร้องไห้ก็ยังไม่หยุดตี ล่าสุดโรงเรียนสั่งพักการสอนแล้ว

วันที่ 23 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็นผู้ปกครองนักเรียน ได้โพสต์ภาพมือของเด็กนักเรียนที่บริเวณปลายนิ้วและเล็บเป็นรอยช้ำลักษณะห้อเลือด พร้อมข้อความจำนวน 21 บรรทัด บรรยายพฤติกรรมคุณครูที่ลงโทษเด็กนักเรียนถึง 20 คน จากนักเรียนทั้งหมด 22 คน โดยการจีบมือแล้วใช้แปรงลบกระดานดำเคาะที่ปลายนิ้ว จากสาเหตุที่นักเรียนไม่ยอมทำการบ้านตามที่ครูสั่งทางกลุ่มไลน์ โดยเรียกร้องให้คุณครูที่ลงโทษเด็กนักเรียน ได้พิจารณาตัวเองว่าเหมาะสมหรือไม่ พร้อมกล่าวขอบคุณคณะผู้บริหารโรงเรียน และคณาจารย์ที่ได้แสดงความห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยสอบถามผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนอยู่ในพื้นที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 ช่วงเวลาประมาณ 4โมงเย็น ได้ไปรับลูกชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในตัว อ.ประโคนชัย ได้เห็นลูกชายเดินร้องไห้มาขึ้นรถ ก็ถามลูกชายว่าเป็นอะไร ลูกชายพูดทั้งเสียงสะอื้นว่า ถูกครูสอนวิทยาศาสตร์ทำโทษ เพราะไม่ทำการบ้านตามที่ครูสั่ง ซึ่งครูสั่งงานทางไลน์กลุ่มเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.64 แต่น้องเข้ากลุ่มไลน์วันที่ 13 มิ.ย.64 น้องก็เลยไม่ได้อ่านข้อความที่ครูสั่ง โดยมีนักเรียนในห้องถูกทำโทษ 20 คน ด้วยการให้จีบนิ้วแล้วครูก็ใช้แปรงลบกระดานดำเคาะที่ปลายนิ้ว แต่น้องโดนหนักมือข้างหนึ่ง 5 ครั้งอีกข้าง 4 ครั้งรวมเป็น 9 ครั้ง จนช่วงปลายนิ้วและเล็บมีรอยช้ำลักษณะห้อเลือด ซึ่งหัวอกคนเป็นแม่เมื่อเห็นสภาพลูกที่ถูกทำโทษแล้วรับไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ แล้วยิ่งได้ยินลูกบอกว่าตอนที่ถูกครูทำโทษ รู้สึกเจ็บมากและได้พยายามขอร้องครูแล้ว ว่าเจ็บทนไม่ไหว แต่ครูกลับบอกน้องว่าก็ช่างเธอ แล้วยังใช้แปรงลบกระดานเคาะที่มือของลูกอีก

...

"อยากจะถามครูว่าจิตใจทำด้วยอะไร เมื่อเด็กบอกว่าเจ็บ และขอร้องให้หยุดทำไมยังทำต่อ จึงมองว่าเป็นการลงโทษที่ใช้อารมณ์ มากกว่าเหตุผล หากเด็กผิดก็น่าจะมีวิธีทำโทษอย่างอื่นที่ไม่รุนแรง ในความรู้สึกคนเป็นแม่ ก็ไม่อยากให้ครูคนดังกล่าวสอนเด็ก ควรจะให้ไปทำหน้าที่อื่น เพราะมีผู้ปกครองหลายคนบอกว่า ลูกเคยถูกครูคนนี้ทำโทษรุนแรงเหมือนกัน แต่ก็ปล่อยผ่านไม่กล้าเอาเรื่อง เพราะไม่อยากมีปัญหา ส่วนกรณีที่เกิดกับลูก เบื้องต้นทางผู้อำนวยการ ก็ได้เรียกครูคนดังกล่าวมาตักเตือน และขอโทษแล้ว ซึ่งก็ยอมรับคำขอโทษ แต่เรื่องวินัยอยากให้ดำเนินการตามระเรียบ เพื่อจะได้ไม่ให้ทำแบบนี้กับลูกหลานใครอีก” แม่ของเด็กนักเรียนที่ถูกทำโทษ กล่าว

ด้าน ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ ระบุว่า หลังผู้ปกครองมาแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เรียกครูมาสอบถามทันที ซึ่งครูยอมรับว่าได้ทำโทษเด็กจริง เนื่องจากเด็กไม่ทำงานส่งตามที่สั่ง แต่วิธีการทำโทษอาจจะไม่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด ซึ่งครูได้ขอโทษผู้ปกครองแล้ว แต่ในเรื่องวินัยทางโรงเรียนจะตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการลงโทษตามระเบียบ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งในเบื้องต้นได้สั่งให้ครูต้นเหตุพักการสอน และไปทำหน้าที่อื่นก่อนชั่วคราว.