ผบช.ภ.3 โน้มตัวเข้าหา "ผู้ว่าฯ-นายก อบจ.ยโสธร" เพื่อขายแนวคิด พื้นที่ปลอดภัยด้วยโครงการ 1อำเภอ 1เซฟตี้โซน เพื่อให้สนับสนุนติดกล้อง CCTV ในการช่วย สภ.เมืองยโสธร สร้างพื้นที่ปลอดภัย ชุมชนเข้มแข็ง เพราะตำรวจไม่มีงบประมาณพอ พร้อมกระตุ้น ผบช.ลงไปดู ใครมีความสามารถขุดขึ้นมา ใครมีปัญหาต้องลงไปดูแล


เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 16 มี.ค.64 ที่หน้า สภ.เมืองยโสธร พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมคณะ เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลของ สภ.เมืองยโสธร พร้อมทั้งตรวจติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน หรือ (1DOSZ), ตรวจศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิด (CCTV) และเดินทางติดสติกเกอร์พื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองยโสธร โดยมี พ.ต.อ.มังกร กวีกรณ์ และข้าราชการตำรวจให้การต้อนรับ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า กองบัญชาการคิดโครงการเพื่อให้ชุมชนในพื้นที่นั้นๆ มีความปลอดภัย ตนจึงคิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน หรือ (1DOSZ) ภายใต้แนวคิดถ้าการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพจะส่งผลให้อาชญากรรมลดลง เมื่อถามว่าจะใช้เครื่องมืออะไรที่ทำให้ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส คำตอบคือ กล้อง CCTV เมื่อคิดแล้วสั่งให้ปฏิบัติแล้วจึงลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า ซึ่งตนย้ำตลอดว่า ตำรวจจะต้องโน้มตัวเข้าหาประชาชน โน้มโดยกิริยามรรยาท ซึ่งหมายถึงการนอบน้อมถ่อมตนเพื่อแสวงหาความร่วมมือให้ช่วยติดตั้งกล้องวงจรปิด เนื่องจากตำรวจไม่มีงบประมาณ แต่ตำรวจอยากทำให้ชุมชนเข้มแข็งและปลอดภัยจากอาชญากรรม

...

"ยกตัวอย่างวันนี้ตนเดินทางเข้าพบ นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร เพื่อโน้มตัวเข้าหาและขายแนวคิดว่าตนมีโครงการที่ดีคือ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งสองหน่วยงานที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ"

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาเยี่ยมข้าราชการตำรวจ เนื่องจากขวัญกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ และฝาก พ.ต.อ.มังกร กวีกรณ์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร ขอให้มองตาลูกน้องตัวเองทุกนาย ท่านต้องสั่งต้องพูดต้องคุย ท่านถึงได้ใจลูกน้องตัวเอง อย่าทิ้งลูกน้อง และหากใครมีความสามารถต้องขุดขึ้นมา ใครที่มีปัญหาต้องลงไปดูแล คนใดที่มีความสามารถและองค์ความรู้กระตือรือร้นที่จะทำงานและมีผลงาน ก็เสนอขึ้นมา ซึ่งตนก็ทำเป็นนแบบอย่างเช่นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ไม่ต้องมีการวิ่งเต้น เช่น ตำรวจที่ได้รับประกาศนียบัตรสอบสวนดีเด่น 4 ปีติดต่อกันซึ่งไม่รู้จักกันเลย แต่ตนแต่งตั้งให้เป็นผู้กำกับการสถานี และอีกหลายๆ คนมีผลงานดีเด่นไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องมาหาตน ตนก็แต่งตั้งให้เป็นรองผู้กำการการสถานี จึงฝากถึงข้าราชการตำรวจทุกนายหากมีปัญหาก็ขอให้พูดคุยกับผู้กำกับการสถานี

จากนั้น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้เดินทางตรวจศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิด (CCTV) ของสภ.เมืองยโสธร เพื่อดูความเรียบร้อยและสอบถามปัญหาต่างๆ พร้อมทั้งเดินทางไปติดสติกเกอร์ข้อความพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองยโสธร.