ยุทธการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” ที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 สั่งให้ทุกหน่วยปิดล้อมตรวจค้นชุมชนเป้าหมายยาเสพติดและอาวุธปืนของตำรวจภูธรภาค 3 ในระหว่างวันที่ 1-5 ก.พ. มี 148 เป้าหมายจากจำนวนพื้นที่รับผิดชอบ 36 โรงพักในพื้นที่ บช.ภ.3
รวมพลังตำรวจทั้งภาค 3 ร่วมกับภาคเอกชน หน่วยงานเกี่ยวข้องทำสงครามยาเสพติด
ผลการระดมกวาดล้างทำให้จับกุมยาเสพติดได้ 293 คดี ของกลางยาบ้าจำนวน 186,936 เม็ด
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ปรับแผนการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ บช.ภ.3 ทั้งงานมวลชนเชิงรุกเข้าสู่ชุมชน โรงเรียน สถานศึกษา ครอบครัว ควบคู่กับการกดดันทางกฎหมายกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาใหญ่รายย่อยทุกคดี
เป้าหมายอายัดทรัพย์สินทั้งหมด
สภ.ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี จับกุม นายทองปาน โบราณ อายุ 34 ปี ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลางส่วนประกอบอาวุธปืน 10 รายการ เครื่องมือช่างทำและประกอบอาวุธปืน นายทองปานรับว่า เป็นผู้ที่รับสั่งทำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ส่งขายให้ลูกค้าทางออนไลน์มาแล้ว 3-4 เดือน ราคากระบอกละ 1,000-3,000 บาท แล้วแต่ความยากง่าย รายได้ 20,000-30,000 บาทต่อเดือน
การเปิดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังพร้อมกันทุกพื้นที่โรงพักของตำรวจภูธรภาค 3 ของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ถือเป็นแนวทางการขับเคลื่อนที่มาถูกทาง
ชาวบ้านทุกพื้นที่อยากเห็นตำรวจ ใช้ยาแรง กดดันพื้นที่เสี่ยง จับกุมยาเสพติดและอาวุธปืนเถื่อน
คนภาคอีสานเจอปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดมายาวนาน คนติดยาในหมู่บ้านชุมชน กลุ่มเด็กและเยาวชนที่เติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ บางส่วนตกเป็นทั้งทาสยาเสพติดและเป็นผู้ค้ารายย่อย
...
สิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นคือ ตำรวจลงพื้นที่ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาลูกหลานติดยา วัยรุ่นพกพาอาวุธปืนก่อเหตุยิงกันตามงานรื่นเริงต่างๆ ทำให้มีผู้เสียชีวิต คนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งผู้บริสุทธิ์ถูกลูกหลงนับครั้งไม่ถ้วน
ล้วนเป็นฝันร้ายของคนอีสาน
ยุทธการปิดล้อมตรวจค้นของตำรวจภูธรภาค 3 ช่วยให้คดีอาชญากรรมในพื้นที่ต่างๆ ลดลง คนร้ายไม่กล้าก่อคดีหากพบเห็นตำรวจเอาจริง แก้ปัญหายาเสพติดและอาวุธปืนเถื่อน ต้นตอของอาชญากรรมอย่างอื่นได้
สิ่งที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ฉีดยาแรงลงไปในทุกพื้นที่ เชื่อว่าตรงประเด็นได้ใจชาวบ้านที่ยังอยากให้ตำรวจกลับมาปราบปรามยาเสพติดต่อเนื่อง การเปิดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสาน
อย่างน้อยช่วยทำให้ชาวบ้านเชื่อมั่นในตำรวจ ทำให้คนอีสานหมดห่วงยาเสพติด
จากที่เคยปล่อยให้ระบาดสู่ชุมชนอย่างหนัก.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th