หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งความจับกุมชาวบ้าน บุกรุกเข้าไปหาเก็บเห็ด ตำรวจ อำเภอพยายามช่วยไกล่เกลี่ยแต่ไม่เป็นผล ยืนยันให้ดำเนินคดี ฝ่ายผู้ต้องหาบอกแค่มาเก็บเห็ดเอาไปกิน และไม่รู้ว่าเป็นพื้นที่ห้ามเข้า  

วันที่ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 8 ก.ค. 63 พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก. (สอบสวน) และ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ แก้วคำ พงส.ร่วมกันสอบปากคำ น.ส.ทัศศอร โยแก้ว อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 7 ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี และ นางบุญมี อินธิเดช อายุ 59 ปี ทั้งหมดอยู่หมู่บ้าน ตำบลเดียวกัน ถูก นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63 เวลา 11.00 น.

ทั้งนี้ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ ได้แจ้งให้ตำรวจสายตรวจจับกุมชาวบ้านทั้งสามคนไว้ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ หลังจากที่ตำรวจนำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามมาที่สถานีตำรวจแล้ว มีผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ และผู้แทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้พยายามไกล่เกลี่ยขอร้องไม่ให้ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา แต่ นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ ไม่ยินยอม ได้ทำเป็นหนังสือราชการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสาม

...

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นชาวบ้านจากอำเภอน้ำเกลี้ยง ไม่ใช่คนในอำเภอเมือง ซึ่งต้องเดินทางไกลมาหาเก็บเห็ดป่าเพื่อนำไปประกอบอาหาร เห็ดที่ผู้ถูกกล่าวหาเก็บมา ชาวบ้านเรียกว่า เห็ดขม ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามคนให้การว่า เห็ดที่พบอยู่ในตะกร้าของทั้งสามคนนั้นมีเพียงเล็กน้อย และเก็บมาจากป่าที่อื่น เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ ลงจากรถก็เดินเข้าไป เพราะเห็นว่ามีต้นยูคาลิปตัสขึ้นอยู่จำนวนมาก และเห็ดขมชอบขึ้นตามโคนต้นยูคาลิปตัส

อย่างไรก็ตาม พอชาวบ้านเดินเข้าไปได้สักครู่หนึ่ง ก็ถูกหัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งให้ตำรวจมาจับกุม หลังจากที่ได้รับรายงานในช่วงเวลากลางวันตนได้สั่งการให้ไกล่เกลี่ยให้ถึงที่สุด เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เป็นเรื่องเล็กน้อย โดยทางตำรวจและตัวแทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยแล้ว แต่ทางหัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ไม่ยอม และมีหนังสือมาแจ้งความดำเนินคดี ทางตำรวจก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องว่ากันไปตามกระบวนการสอบสวนสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน

“หากสอบสวนแล้วข้อเท็จจริงไม่ผิด ไม่ครบองค์ประกอบความผิด ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มีเจตนาที่จะไปบุกรุก หลักฐานไม่พอ พนักงานสอบสวนก็จะรีบสั่งไม่ฟ้อง” พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ กล่าว

ด้าน น.ส.ทัศศอร โยแก้ว หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า พอเจ้าหน้าที่มาตนก็ได้บอกว่า พวกตนยังไม่ได้เก็บเห็ดในป่านี้หรอก ที่นี่ไม่มีเห็ด พวกตนจะกลับออกไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็หาว่าพวกตนเถียง ไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งพวกเราเดินหาดูแถวใกล้ๆ ทางถนนใหญ่เท่านั้น แต่ย่าคนนึงที่มาด้วยกันนี้หลงเข้าไปในป่าลึก และไม่รู้ว่าที่นี่เขาจะห้ามเข้า เพราะไม่มีป้ายอะไร ที่ผ่านมาก็เดือดร้อนมาก เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีเงินจะซื้อกิน จึงมาหาเก็บเห็ดไปทำอาหาร แต่ก็มาถูกแจ้งจับ.