ศรีสะเกษพบป่วยโควิด-19 อีก 1 ราย ยอดสะสมรวม 2 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายแรก และมีผู้เสี่ยงสูงอีก 3 ราย จังหวัดเร่งให้ชุมชน อสม.สกัดโรคกลุ่มเดินทางจาก กทม.กลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อโคโรนา 2019(COVID-19) จ.ศรีสะเกษ ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นพ.วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และ พญ.เพิ่มศิริ เลอมานุวรรัตน์ ผอ.โรงพยาบาลศรีสะเกษ ร่วมกัน แถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนว่า กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายแรกในจังหวัดศรีสะเกษไปก่อนหน้านี้แล้ว 1 ราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับจากสนามมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 จากนั้นได้มีอาการป่วยเมื่อวันที่ 17 มีนาคม และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และทีมแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษได้รับตัวผู้ป่วยรายนี้ เข้ารักษาอาการแล้ว จนขณะนี้มีอาการปกติ เนื่องจากผู้ป่วยมีสุขภาพแข็งแรง

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อโคโรนา 2019 จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ 24 มี.ค. 63 พบผู้ป่วยเพิ่มอีกหนึ่งราย เป็นหญิงอายุ 67 ปี อาศัยอยู่ที่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เป็นคนในครอบครัวผู้ป่วยรายแรกได้สัมผัสใกล้ชิด มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก จากข้อมูลการสอบสวนโรค พบว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ผู้ป่วยพร้อมสามี เดินทางโดยรถทัวร์ไปเยี่ยมบุตรที่จังหวัดชลบุรี และไม่ได้ออกไปที่ใด วันที่ 16 มี.ค. เดินทางจากจังหวัดชลบุรีกลับบ้านที่ อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ โดยรถยนต์ส่วนตัว นั่งมาด้วยกัน 4 คน วันที่ 20 มี.ค. ได้เข้าตรวจรักษาตัวที่โรงพยาบาลวังหิน เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลตรวจยืนยันว่าพบเชื้อ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม

...

ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ มีผู้ที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลศรีสะเกษ 5 ราย คือผู้ป่วยรายแรก กับรายที่ 2 พร้อมด้วยผู้ที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้งสองราย อีก 3 คน ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องพักอยู่โรงพยาบาลเฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วัน นายวัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก คือคนที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯและเขตปริมณฑลมายังภูมิลำเนา เบื้องต้นประมาณ 1,800 คน จึงสั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อสม. ร่วมกับ รพ. สต. ได้เฝ้าระวังและทำความเข้าใจกับผู้ที่เดินทางกลับมาในพื้นที่ให้ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง จึงให้ทำประวัติพร้อมเฝ้าระวังรังหรือกักตัวจนกว่าจะครบ 14 วัน เป็นการรับผิดชอบสังคม และคนในครอบครัวร่วมกัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคโควิด 19 ในช่วงนี้

"พร้อมกัน จังหวัดศรีสะเกษ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้ออกประกาศให้ปิดสถานที่ ดังต่อไปนี้ 1. ห้างสรรพสินค้า ยกเว้นแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านอาหาร (ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น) 2. สระว่ายน้ำ สวนน้ำ หรือกิจการอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 3. ศูนย์พระเครื่อง-พระบูชา อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 23 มี.ค. 63" นายวัฒนา กล่าว.