ส่งท้ายวันหยุดสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยว เดินทางมาล่องแพแลภูลาวที่ "โนนบักดาวสาวเอ้" แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของบึงกาฬ เย็นสบาย วิวหลักล้านราคาหลักร้อย ทิวทัศน์เป็นของเรา ภูเขาเป็นของลาว
เมื่อวันนี้ 5 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงส่งท้ายวันหยุดแบบนี้ ขอพาไปชมแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน บริเวณหนองอาฮง หรือ โนนบักดาว–สาวเอ้ ในพื้นที่บ้านดอนปอ ม.5 ตำบลโนนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นแห่งใหม่ของจังหวัดบึงกาฬ ที่บรรยากาศเต็มไปด้วยธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย ซึ่งในวันนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มาล่องแพชมธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของหนองน้ำขนาดใหญ่ มองผ่านสายน้ำ แลเห็นภูเขาควาย ของฝั่ง สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้าน ในแนวคิดที่ว่า “ วิวหลักล้าน.ราคาหลักร้อย.ทิวทัศน์เป็นของเรา.ภูเขาเป็นของลาว”
หนองอาฮง มีเนื้อที่ราว 4,500 ไร่ เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ คลอบคลุมพื้นที่ใน 3 ตำบล คือตำบลโนนสว่าง ตำบลหอคำ ตำบลไคสี อ.เมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ มีความจุของน้ำประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามตามธรรมชาติ เป็นแหล่งอาศัยของปลาน้ำจืดหลายชนิด โดยปัจจุบันเทศบาลตำบลโนนสว่าง ได้ปรับปรุงพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว และรายได้สู่ชุมชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการอนุรักษ์ปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ รวมไปถึงสัตว์อื่นๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ โดยมีกติกาชุมชนกำหนดไว้ชัดเจน
...
นายสมพัฒน์ ทีหอคำ ประธานกลุ่มแพโนนสว่าง กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาล่องแพในหนองอาฮง หรืออีกชื่อคือ โนนบักดาว–สาวเอ้ นอกจากจะได้ล่องเรือชมความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนตำบลโนนสว่างด้วย เพราะทุกวันจะมีชาวบ้านนำวัวควายออกมาเลี้ยงบริเวณริมหนองน้ำ ชาวบ้านบางส่วนที่ว่างเว้นจากสวนยางพารา ก็จะรวมกลุ่มพายเรือออกมาหาปลาใกล้ๆกับที่นักท่องเที่ยวล่องแพ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับชีวิตพื้นถิ่นของคนในชุมชน 3-4 หมู่บ้านที่อาศัยหนองน้ำแห่งนี้ทำมาหากิน และสามารถพูดคุยสอบถามหรือซื้อปลาติดมือกับบ้านในราคากันเองได้อีกด้วย
ประธานกลุ่มแพโนนสว่าง กล่าวอีกว่า สำหรับค่าบริการล่องแพที่โนนบักดาว–สาวเอ้ นั้นคิดชั่วโมงแรก 250 บาทชั่วโมงต่อไปชั่งโมงละ 100 บาท และยังมีอาหารพื้นถิ่น เช่น ส้มตำ ไก่ยาง เป็นต้น และเครื่องดื่มไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวตลอด โดยจะเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปจนถึง 5 โมงเย็น นอกจากจะให้บริการล่องแพแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์พักค้างแรม หรือจะใช้สถานที่จัดงานต่างๆได้ สามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 087-0041969
นายสมพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการเดินทางมาท่องเที่ยวที่โนนบักดาว–สาวเอ้ นั้นระยะทางห่างจากตัวเมืองบึงกาฬ ไปทางจังหวัดหนองคายประมาณ 32 กิโลเมตร (สามารถตั้ง GPS ระบบนำทาง ไปที่บ้านดอนปอ ม.5 ต.โนนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด) เมื่อมาถึงสอบถามเส้นทางกับชาวบ้านได้เลยหรือสังเกตป้ายตามเส้นทาง ชาวตำบลโนนสว่างยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน.