สลดใจ แม่แท้ๆ ร่วมกับป้า นำลูกสาวออทิสติกวัย 19 ปี หาเงินด้วยการ "นอนกับผู้ชาย" ก่อนตลบหลัง แต่งชุดข้าราชการไปกรรโชกทรัพย์ เรียกเงินราย 5 หมื่น จนถึง 5 แสน ตำรวจตามรวบได้คาคอนโดฯ
เวลา 11.30 น. วันที่ 26 ธันวาคม ที่หน้ากองกำกับการสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม ร่วมกันแถลงข่าว จับนางกัญญณณัฎฐ์ (ขอสงวนนามสมมติ) อายุ 39 ปีชาว ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 296/2562 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 โดยกล่าวหา “กรรโชกทรัพย์ ไม่มีสิทธิ์สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์” พร้อมชุดเครื่องแบบข้าราชการตุลาการศาล โดยจับกุมได้ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ร.ต.อ.วราเทพ โลทัง รอง สว.(สอบสวน) สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากชายหนุ่มวัย 24 ปีคนหนึ่ง เป็นชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ว่า ถูกนางกัญญณณัฎฐ์ พร้อมญาติชื่อนางยิ่งลักษณ์ อายุ 49 ปี อยู่หมู่ 8 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี นำ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเด็กพิการทางสมอง หรือออทิสติก มาร่วมหลับนอนกับตน ก่อนตามมากรรโชกทรัพย์ 2.5 แสนบาท และบังคับให้ทำพิธีหมั้นหมาย หากไม่ตกลงจะแจ้งตำรวจดำเนินคดี
...
ทั้งนี้ ชายหนุ่มคนดังกล่าว ยังให้การว่า ทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี วันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ตนได้เล่นแอปพลิเคชันหาคู่ และรู้จักกับ น.ส.เอ อายุ 16 ปี อ้างว่าเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร และแลกเบอร์โทร ก่อนนัดพบกันวันที่ 3 มิถุนายน 2562 จนนัดพบกันที่โรงพยาบาลหนองหาน ซึ่ง น.ส.เอ หน้าตาดี แต่ไม่ค่อยพูด จึงพาไปร่วมหลับนอนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง กระทั่งเช้าได้ไปส่งขึ้นรถบัสโดยสารกลับไป ส่วนตนไปทำงานตามปกติ
จากนั้นไม่นาน พ่อได้โทรมาบอกว่ามีผู้หญิง 2 คน แต่งตัวข้าราชการ อ้างตัวเป็น แม่กับป้า น.ส.เอ มาโวยวายกล่าวหาว่าตนพาลูกสาวไปร่วมหลับนอน จะดำเนินคดีทางกฎหมาย จึงกลับมาบ้าน พบนางกัญญณณัฎฐ์ แต่งชุดข้าราชการอ้างตัวเป็นครูอยู่ที่ จ.สกลนคร และนางยิ่งลักษณ์ อ้างตัวเป็นป้า มีผู้ชายเป็นคนขับรถปิกอัพมาที่บ้าน พูดจาข่มขู่ตน ว่าพ่อ น.ส.เอ เป็นตำรวจยศพันตำรวจโท เป็นรอง ผกก.สังกัด สภ.น้ำโสม หากพ่อรู้เรื่องนี้ ตนจะต้องถูกดำเนินคดีพรากผู้เยาว์
ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงให้พ่อช่วยเจรจา ซึ่งทางนั้นเรียกค่าเสียหาย 3 แสน ต่อรองเหลือ 2.5 แสนบาท โดยจ่ายก่อน 5 หมื่นบาท อีก 2 แสนให้ไปจ่ายที่บ้านใน อ.น้ำโสม และจัดพิธีหมั้นหมายด้วย และให้สัญญาว่าจะส่ง น.ส.เอ เรียนจนจบปริญญาตรี จึงจะแต่งงาน ซึ่งตนได้ตกลง และนำญาติ 30 คน เดินทางไปทำพิธีหมั้นหมายที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.น้ำโสม และมอบเงินที่เหลือให้ ในวันที่ 8 มิถุนายน 2562
หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ได้ไปเดินทางมาหา น.ส.เอ ที่น้ำโสมและพักค้างคืนด้วย ตื่นเช้ามีคนขับรถ ชื่อนายกฤษฎา มาพบ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า ตนถูกจัดฉากกรรโชกทรัพย์ โดยนางกัญญณณัฎฐ์ เป็นแม่ น.ส.เอ จริง แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นพ่อ จึงให้ป้าและลุงรับเป็นลูก ซึ่ง น.ส.เอ เป็นเด็กพิการทางสมอง ระดับ 4 ส่งไปเรียนโรงเรียนคนพิการ ที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเริ่มโตเป็นสาว อายุประมาณ 15 ปี นางกัญญณณัฎฐ์ ได้วางแผนพาลูกสาวไปหลับนอนกับผู้ชาย แล้วกรรโชกทรัพย์ รายละ 50,000-500,000 แสนบาท จึงสงสาร เพราะเห็นว่าตนจริงใจกับ น.ส.เอ จึงมาบอก เมื่อรู้ว่าถูกหลอก จึงมาแจ้งตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ต่อมา ตำรวจได้เรียก นางยิ่งลักษณ์ หรือชื่อเดิมนางกุหลาบ ป้า น.ส.เอ มาสอบสวน และให้การรับสารภาพว่า เรื่องที่ผู้เสียหาย กล่าวหาเป็นความจริง โดยนางกัญญณณัฎฐ์ ได้ร่วมกับพวก 6 คน นำรูป น.ส.เอ ไปสมัครในแอปพลิเคชัน BADOO เพื่อแชตกับผู้ชาย ซึ่ง น.ส.เอ เขียนหนังสือไม่ได้ อ่านไม่ออก กระทั่งผู้ชายขอนัดพบ น.ส.เอ พวกตนได้นำ น.ส.เอ นั่งรถปิกอัพไปส่งที่หน้า รพ.หนองหาน และร่วมหลับนอนกัน ตื่นเช้าพวกตนก็เข้าข่มขู่กรรโชกทรัพย์เงิน 2.5 แสนบาท และจัดพิธีหมั้น เมื่องานสำเร็จก็จะนำเงินมาแบ่งกัน และกระทำแบบเดียวนี้กับผู้ชายอีก 6 ราย ในพื้นที่อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร หนองบัวลำภู ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับนางกัญญณณัฎฐ์ ดังกล่าว
จากนั้น วันที่ 25 ธันวาคม พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้นำกำลังพร้อมหมายจับ ไปจับกุมนางกัญญณณัฎฐ์ ขณะกำลังอยู่กับ น.ส.เอ ได้ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งในเขต สน.สำโรงเหนือ กรุงเทพมหานคร ควบคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.น้ำโสม จากการค้นบ้านพักพบชุดเครื่องแบบข้าราชการตุลาการศาล ซึ่งนางกัญญณณัฎฐ์ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในคดีกรรโชกทรัพย์ แต่ให้การรับสารภาพว่าสวมใส่ชุดข้าราชการตุลาการศาลจริง จึงนำไปตรวจยึดชุดข้าราชการตุลาการศาล ซึ่งนางกัญญณณัฎฐ์ ให้ น.ส.เอ นำไปฝากญาติไว้
...
พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่า นางกัญญณณัฎฐ์ นำเงินที่ได้จากการกรรโชกทรัพย์ ไปเล่นการพนัน และเป็นบุคคลที่เปลี่ยนชื่อมาแล้ว 10 ครั้ง มีหมายจับจำนวนมากกว่า 10 หมายในหลายท้องที่ มีผู้ตกเป็นเหยื่อและแจ้งความแล้ว 6 ราย ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหาจับผู้ร่วมขบวนการไปแล้ว 2 คน กำลังสอบสวนขยายผลว่า มีผู้ใดร่วมขบวนการกับ นางกัญญณณัฎฐ์ อีกบ้าง จะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจับกุมมาดำเนินคดีให้หมด หากใครเคยตกเป็นเหยื่อนางกัญญณณัฎฐ์และพวก ให้แจ้งความดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุ