ตำรวจขอนแก่น เตรียมนำตัว "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรต่อเนื่อง ทำแผน หลังรับสารภาพฆ่าสาวใหญ่กระนวน ศพที่ 6 อ้างทะเลาะเรื่องรถจยย.ถูกกัดนิ้ว ข่วนหน้า เลยบันดาลโทสะบีบคอสลบ ก่อนรัดคอซ้ำจนตายคามือ 

วันที่ 19 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับตัว นายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ฆาตกรต่อเนื่อง หลังก่อเหตุฆ่าผู้หญิงในพื้นที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น แล้วขึ้นรถไฟที่บุรีรัมย์ ตีตั๋วไปลงอยุธยา แต่ถูกจับได้ขณะรถไฟเข้าจอดที่สถานีปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงสายวันที่ 18 ธ.ค.โดยมีพลเมืองดี เป็นเด็กหนุ่ม เป็นผู้ชี้เบาะแสให้จับกุม นำตัวมาดำเนินคดีที่ จ.ขอนแก่น โดยนายสมคิดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

อ้างเหตุ "สลับรถ" ทำทะเลาะกัน 

พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวถึงมูลเหตุของการฆาตกรรมครั้งนี้ ว่า

จากคำให้การของผู้ต้องหาว่า รู้จักผู้ตายทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2562 จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาผู้ตายที่บ้าน และอยู่ด้วยกันในวันที่ 2 ธันวาคม กระทั่งวันที่ 14 ธันวาคม ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลขอนแก่น และขับขี่รถจักรยานยนต์ของตัวเองกลับไปหาผู้ตายที่ อ.กระนวน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจและทะเลาะกัน

ถูกกัดนิ้ว-ข่วนหน้า พลั้งมือบีบคอสลบ

จนถึงเช้าวันที่ 15 ธันวาคม ผู้ต้องหาอ้างว่า มีความรักใคร่ผู้ตายและจะแต่งงานจริง แต่ช่วงที่ทะเลาะกันผู้ต้องหาอ้างว่า ผู้ตายกัดที่นิ้ว ข่วนที่หน้า จึงโมโห พลั้งมือบีบคอผู้ตายจนสลบคามือ

รัดคอซ้ำจนตาย-มัดศพ เก็บไว้ใต้ที่นอน 

...

"จากนั้นได้เอาสายไฟ รัดที่คอซ้ำ จนผู้ตายขาดใจตาย จึงนำเทปกาวใสมาพันรอบคอซ้ำอีก แล้วใช้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือมัดมือมัดเท้า เก็บศพไว้ใต้ที่นอนแล้วเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วก็หลบหนี"

จากขอนแก่น มาสารคาม เช่าโรงแรมนอนร้อยเอ็ด

นายสมคิด ให้การว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์ของตัวเองไปเปลี่ยนกับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่จอดไว้ที่ รพ.ขอนแก่น แล้วขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ออกจากจังหวัดขอนแก่น มุ่งหน้าไปยังจังหวัดมหาสารคาม ตัดผมและเปลี่ยนเสื้อผ้า ขี่รถจักรยานยนต์ หนีต่อไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด เช่าโรงแรมรายวันนอนที่จังหวัดร้อยเอ็ด 1 คืน

อ้างบันดาลโทสะ แต่ลงมือ แบบ "คนโรคจิต" 

นายสมคิด ให้การอีกว่า จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์หนีไปที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ โดยนำรถจักรยานยนต์ไปจอดที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แล้วไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ตีตั๋วรถไฟไปที่จังหวัดอยุธยา ก่อนที่มาถูกจับกุมได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยต้นเหตุในทะเลาะกันจนถึงขั้นลงมือฆ่า ผู้ต้องหายังบอกด้วยว่า เพราะตนออกไปข้างนอกแล้วกลับมาช้า ผู้ตายจึงโมโหมีปากเสียงกัน ส่วนผู้ตายได้กัดที่นิ้ว จึงบันดาลโทสะฆ่าผู้ตาย บีบคอจนตายคามือ

“ทั้งหมดเป็นคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งไม่ต่างกับคนโรคจิต เพราะการลงมือแบบนี้เป็นการเจตนาฆ่าที่ชัดเจน และคำพูดแบบนี้ผู้ต้องหามักจะอ้างเสมอว่าทะเลาะวิวาทแล้วพลั้งมือหรือบันดาลโทสะ ฆ่าผู้ตาย เพราะถ้าคนที่มีจิตใจปกติ คงไม่สามารถฆ่าคนตายต่อเนื่องกันหลายศพ จนมาถึงศพที่ 6” พล.ต.ต.ยรรยง กล่าว 

มอบเงินรางวัลนำจับ พลเมืองดี รับ 8 หมื่น 

ในระหว่างที่มีการแถลงข่าวนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้มอบเงินรางวัลนำจับให้พลเมืองดี คือ "น้องเรย์" อายุ 23 ปี จำนวน 50,000 บาท และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มอบเงินสมทบเป็นค่านำจับตัวผู้ต้องหาให้แก่พลเมืองดีอีก 30,000 บาท

น้องเรย์ เผย แฟนสาว เป็นคนเห็น "สมคิด"

ด้านน้องเรย์ พลเมืองดี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่โดยสารอยู่บนรถไฟตอนแรกยังไม่ได้นั่งอยู่ใกล้คนร้าย แต่แฟนสาวที่เดินทางไปด้วยกัน สังเกตเห็นว่าชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันนั้น มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายนายสมคิด พุ่มพวง ที่ฆ่าคนตายใน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น มีหมายจับ และตำรวจกำลังต้องการตัว จึงหาข้อมูลในโซเชียล จนแน่ใจว่าใช่นายสมคิดแน่นอน เพราะจำรูปหน้า และแผลเป็นที่คิ้วข้างซ้ายได้ ส่วนคนร้ายก็พยายามที่จะใช้หมวกปิดหน้าและมองไปทางอื่น จากนั้น ได้โทรศัพท์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระนวน พร้อมส่งภาพถ่ายคนร้ายและโลเคชั่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งตำรวจเดินทางไปถึงและจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้

เตรียมรับมือมวลชน แห่ดูทำแผน 10.00 น.วันนี้ 

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เผยด้วยว่า ในเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะมีชาวบ้านจำนวนมากมาดูการทำแผน โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังไว้รับมือมวลชน ไม่ให้เกิดการรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา.

...