ยังหาตัวไม่เจอ หนุ่มวัย 35 ปี พยาบาลห้องฉุกเฉิน รพ.ปากชม จ.เลย ทำงานมา 11 ปี เพิ่งโดนจับได้ว่า ไม่ได้เรียนจบคณะพยาบาล ม.ขอนแก่น โดนรีไทร์ตั้งแต่อยู่ปี 2 แต่ปลอมวุฒิการศึกษา ใบประกอบวิชาชีพ

จากกรณี ชาวบ้านในอำเภอปากชม จ.เลย ร้องเรียนไปยังนายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กรณี นายโกวิท อินทสอน อายุ 35 ปี หนุ่มพยาบาล รพ.ปากชม จ.เลย ไม่จบการศึกษาพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปลอมวุฒิการศึกษา และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ของสภาการพยาบาล เข้าทำงานที่ รพ.ปากชม แผนกฉุกเฉินนาน 11 ปี จนได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ

ทั้งนี้ สำนักงานสาธาณสุขจังหวัดเลย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง โดยได้รับหนังสือรับรองจากคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่า นายโกวิท เข้าศึกษาจริงแต่โดนรีไทร์ออกตั้งแต่เรียนปีที่ 2 แล้ว ส่วนสภาการพยาบาลยืนยันตามหนังสือว่าใบประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ของสภาการพยาบาล เป็นของปลอม ทำให้ สสจ.เลย เป็นผู้เสียหาย จนมีการสั่งพักงานนายโกวิท และให้ทางนิติกรรวบรวมเอกสารเพื่อฟ้องนายโกวิท

นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ได้เชิญเจ้าตัวมาให้ปากคำ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นวุฒิปลอมจริง จึงจะทำเรื่องอนุมัติถึงว่าราชการจังหวัดเลยให้เซ็นให้ออกจากราชการ ส่วนเจ้าตัวก็ต้องได้รับโทษทางอาญา ใช้เอกสารทางราชการปลอมแปลง ทาง สสจ.เป็นผู้เสียหาย ส่วนที่ทำงานมา 11 ปี จะเรียกคืนได้ในส่วนเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับใบประกอบวิชาชีพ แต่เงินเดือนคงต้องให้ไป

ขณะเดียวกันที่ รพ.ปากชม สอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรายหนึ่ง บอกว่านายโกวิท อินทสอน ทำงานอยู่ที่แผนกฉุกเฉิน แต่ไม่ได้มาทำงานหลายวันแล้ว ขณะที่นายแพทย์สรรคเพชร หอมสมบัติ ผอ.รพ.ปากชม เปิดเผยว่าไม่สามารถที่จะให้รายละเอียดและเปิดเผยข้อมูลได้ ต้องให้ผู้บังคับบัญชาเป็นคนเปิดเผย จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปหานายโกวิท แต่ไม่สามารถติดต่อได้

...

ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนายโกวิท อินทสอน ที่บ้านนาค้อ หมู่ 2 ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย พบว่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ปิดประตูเงียบ ไม่มีใครอยู่ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายโกวิท และนางประวัติ อินทสอน อายุ 56 ปี แม่ของนายโกวิท ทางโทรศัพท์ สายว่างแต่ไม่รับสาย

นางทองใส ทองสี อายุ 58 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม เล่าว่า นายโกวิทเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลปากชม ปกติจะไม่อยู่บ้าน นอกจากออกเวรกลับบ้านมาอาบน้ำ นอน ตื่นแล้วก็ไปทำงานที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนเย็น เมื่อวานก็ยังเห็นอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ส่วนเรื่องที่ว่าจบการศึกษาหรือไม่นั้นไม่ทราบ ถ้าไม่จบคงไปทำงานที่โรงพยาบาลไม่ได้

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายเฉลียน กงสิมมา นายก อบต.ปากชม เล่าว่า ช่วงนั้นตนรับตำแหน่งนายก อบต. มีหนังสือมาจากทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นส่งมาถึงท้องถิ่น เป็นหนังสือข้อตกลงเกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ที่จะส่งเสริมบุคลากรในชุมชนไปเรียนต่อ โดยใช้งบของท้องถิ่น เมื่อจบมาให้มาทำงานในท้องถิ่น มีการคัดเลือกบุคลากร จนมีการเลือก นายโกวิทย์ ไปเรียนที่คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยใช้ทุนของ อบต. 1ปีเบิกจ่ายให้ 35,000 บาท เป็นเวลา 4 ปี หรือจนเรียนจบ และเป็นจังหวะเดียวกันที่ตนเองหมดวาระเป็นนายก อบต.ปากชม จากนั้นก็ไม่ทราบเรื่อง จนตอนหลังทราบว่า นายโกวิทมีปัญหากับทางมหาวิทยาลัย แต่ไม่ชัดเจนว่าเรื่องอะไร และระเบียบ อบต. มีว่า เมื่อได้รับทุนการศึกษาแล้วไม่เรียนต่อ หรือไม่จบการศึกษาต้องคืนทุนเป็น 2 เท่า เบิกเงินทุนไป 35,000 บาทต้องจ่าย 70,000 บาท จนแม่นายโกวิทได้นำเงินมาจ่าย จำนวน 70,000 บาท

"ส่วนเรื่องนายโกวิทที่ไม่จบการศึกษา ใช้วุฒิการศึกษาและใบประกอบวิชาชีพปลอมนั้น ตรงนี้ไม่ทราบเรื่องเลย รู้แต่ว่าเขาไปเรียนจบมาทำงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งก็ถือว่าดีเป็นหน้าเป็นตาของชุมชน เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ได้ไปเรียน จบมาทำงาน ส่วนจะเรียนจบจริงหรือไม่ ทางผมและทางชุมชนไม่ทราบเลย จนมาทราบเรื่องจากชาวบ้าน และทางโรงพยาบาลที่พูดคุยกันว่านายโกวิทไม่จบการศึกษา ปลอมวุฒิการศึกษาและปลอมใบประกอบวิชาชีพ"

ขณะที่เพื่อนนายโกวิท (ไม่เปิดเผยชื่อ) เล่าว่า เห็นนายโกวิทได้รับทุนเรียนที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็ดีใจ จบมาก็มาทำงานที่อนามัยบ้านโนนสมบูรณ์ ต.ปากชม อ.ปากชม จากนั้นย้ายไปที่อนามัยคอนสา ต.เชียงกลม ก่อนจะมาอยู่ที่ รพ.ปากชม เป็นคนนิสัยดี ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน จนมาทราบเรื่องว่าไม่จบการศึกษาและใช้วุฒิปลอม ใบประกอบวิชาชีพปลอม ก็รู้สึกเสียใจ ส่วนที่บ้านนายโกวิทปกติจะกลางวันไม่มีใครอยู่บ้าน จะไปสวนยาง กลับมาก็ตอนเย็นหรือค่ำ แต่นายโกวิท ตนไม่ได้เห็นมาหลายวันแล้ว