ชุดสืบสวนตำรวจภาค 4 จับ "พระบุญศรี" 1 ในผู้ต้องหาทีมเผาทั้งเป็นหลวงพ่อแต จ.บึงกาฬได้แล้ว หลังก่อเหตุหลบหนีไปที่บ้านเกิด สารภาพสิ้นอดีตพระบัญชาเป็นผู้สั่งการทั้งหมด ตัวเองได้แต่ทำตาม

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. พ.ต.ท.ภควัฒน์ บงแก้ว รอง ผกก.สอบสวน สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ได้ควบคุมตัวอดีตพระบุญศรี สุภารัตน์ อายุ 61 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 6 ต.หนองปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 คนที่ร่วมกันจุดไฟเผาทั้งเป็นหลวงพ่อแต หรือพระสมจิต ขันติธโร หรือเกิดทรัพย์ อายุ 53 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 3 ราย เป็นชาวบ้าน 2 คน กับพระอีก 1 รูป ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามคำให้การและซัดทอดของจำเลย

อดีตพระบุญศรี ให้การว่า ตนเคยมาบวชศึกษาหาความรู้อยู่กับหลวงพ่อแตเมื่อหลายปีก่อน ขณะที่บวชอยู่ที่นี่ก็ถูกผู้ตายชอบพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ดุด่า จึงเก็บความแค้นไว้ในใจ อดีตพระบัญชา จำเลยที่ถูกจับมาก่อน เป็นญาติกัน และอยู่บ้านเดียวกัน ได้มาชักชวนว่าให้มาช่วยสั่งสอนหลวงพ่อแตหน่อย ตนมีความหลังที่เจ็บแค้นอยู่ในใจอยู่แล้วจึงตัดสินใจมาช่วย โดยอดีตพระบัญชาได้ออกอุบายว่าจ้างให้ นายสมุทร์ วันอุบล อายุ 67 ปี เจ้าของรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์ ทะเบียน ตต 9245 กรุงเทพมหานคร อ้างว่าจะพาไปขนต้นเทียนเข้าพรรษาที่กรุงเทพฯ แต่ขอให้พามาธุระที่จังหวัดบึงกาฬเสียก่อนจึงย้อนกลับเข้ากรุงเทพฯ

...

 

ผู้ต้องหารายที่ 4 กล่าวต่อว่า ขณะที่เดินทางมาถึงจังหวัดบึงกาฬประมาณบ่าย 4 โมง วันที่ 5 ก.ค.ได้พากันไปนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอปากคาด เพื่อวางแผนฆาตกรรมโหด เมื่อประมาณเที่ยงคืนวันที่ 5 ก.ค. อดีตพระบัญชาได้ซื้อสุราขาวขวดเล็กมาให้ตนเองดื่มย้อมใจเสียก่อน จากนั้นจึงได้เปลี่ยนสบงจีวรเป็นเสื้อผ้าชุดลายพราง ทั้งสองคนออกเดินทางไปยังเป้าหมายที่สำนักปฏิบัติธรรมพระประเสริฐเกิดทรัพย์ บ้านโพนทอง ม.3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย เมื่อรถมาถึงปากทางเข้าสำนักสงฆ์ประมาณเวลาเกือบตี 1 ของวันที่ 6 ก.ค. อดีตพระบัญชาสั่งให้หยุดรถโดยให้นายทนงศักดิ์และนายสมุทร์นั่งรอในรถ ส่วนพวกตนได้ถือเอาแกลลอนน้ำมันคนละ 2 แกลลอนเดินไปที่กุฏิหลวงพ่อแตที่นอนหลับอยู่

เมื่อไปถึง อดีตพระบัญชาสั่งให้ตนทุบกระจกบานหน้าต่าง ด้วยความมึนเมาสุราขาวตนจึงใช้กำปั้นทุบกระจกบานหน้าต่างจนแตก ทำให้นิ้วโป้งด้านขวาถูกกระจกบาดเป็นแผลเลือดไหล จากนั้นจึงพากันเอาน้ำมันซึ่งมีทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันก๊าดชุบผ้าเหลืองที่เตรียมมามัดใส่ไม้ไผ่โยนเข้าไปภายในห้องนอนของหลวงพ่อแต ทางช่องหน้าต่างที่ทุบแตก และโยนผ้าชุบน้ำมันเข้าไปซ้ำอีก 1 อัน พร้อมทั้งแกลลอนน้ำมันสาดเข้าไปเพิ่ม หวังเผาทั้งเป็น ซึ่งตนเองนอกจากจะถูกกระจกบาดที่นิ้วมือแล้วก็ยังมีหมวกใส่คลุมปิดใบหน้าถูกไฟไหม้ไปด้วย จึงได้ถอดโยนทิ้งที่ข้างกุฏิเกิดเหตุ จากนั้นก็พากันวิ่งไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ แล้วเดินทางเข้าไปที่กรุงเทพฯ เพื่อไปเอาต้นเทียนพรรษาแล้วก็กลับมาที่บ้านจังหวัดศรีสะเกษ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับได้ดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย กล่าวว่า ถือเป็นการปิดคดีฆาตกรรมเผาทั้งเป็นหลวงพ่อแตได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะได้ผู้ต้องหาครบทั้ง 4 คนตามแนวทางการสืบสวนสอบสวน รู้แต่ครั้งแรกว่าเป็นการขัดผลประโยชน์ แต่ที่ใส่ประเด็นชู้สาวกับเรื่องเงินกู้เข้ามาเพิ่มเติม ทั้งนี้ก็เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้คนร้ายไหวตัวเท่านั้น จึงขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาและทีมงานสืบสวนสอบสวนที่ช่วยกันจัดการคดีให้เรียบร้อยไม่ถึง 10 วันหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นคดีสะเทือนทั้งขวัญและสะเทือนทั้งใจของพี่น้องประชาชนที่ได้เห็นและได้ยินข่าวพระฆ่าพระด้วยกัน

เมื่อวานนี้หลังจากตามจับตัวอดีตพระบุญศรี ผู้ต้องหาคนที่ 4 มาได้ก็สอบสวนทันที โดยผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพทุกอย่าง จึงพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันทีในที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันชาวบ้านมามุงดูแล้วเกิดอารมณ์เคียดแค้นเข้ารุมประชาทัณฑ์เหมือนที่นำ 3 ผู้ต้องหาไปทำแผนก่อนนี้.