ยายร่ำไห้ คาดแก๊งคุณไสย มนตร์ดำ บุกป่าช้า สะกดวิญญาณศพหลาน 6 ขวบ เจาะกะโหลก คาดนำไปทำปั้นเหน่ง บอกตอนมีชีวิตก็ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ วอนนำมาคืน หวังตอนเผามีอวัยวะครบ 32 ...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปเมรุวัดส่งเสริมธรรม บ้านใหม่ศรีวิไล ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังทราบว่ามีการลักลอบทุบเบ้าปูนเก็บศพ เจาะกะโหลกหน้าผากศพตายโหง

พบ นางอุไรรัตน์ สวรรณหงส์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 10 บ้านปันน้ำใจ ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้เสียหาย หลวงปู่ถนอม กิตติยาโณ เจ้าอาวาสวัด และ พ.ต.ท.วิบูลย์ นนทะแสง สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี อยู่ในที่เกิดเหตุ

นางอุไรรัตน์ เล่าว่า ตนเป็นยายของ ด.ช.ศุกลวัฒน์ อยู่ศรีเจริญ หรือ น้องเก้า อายุ 6 ปี 9 เดือน หลานชาย อาศัยอยู่กับยาย เพราะพ่อแม่แยกทางกัน พ่อไปมีภรรยาใหม่ แม่ถูกดำเนินคดีจำหน่ายยาเสพติด ขณะที่ตนไปรับจ้างตัดอ้อยที่พิษณุโลก ได้ฝากน้องเก้าไว้กับยายทวดให้ดูแล แต่ด้วยความซนของเด็ก ได้ไปเล่นสระน้ำท้ายหมู่บ้านกับเพื่อน และได้จมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2562

หลังทำพิธีสวดอภิธรรมตามประเพณีเสร็จแล้ว จึงได้นำร่างน้องเก้ามาบรรจุไว้ในเบ้าปูนขนาดกว้าง 50 ซม.ยาว 2 เมตร บริเวณเมรุวัดส่งเสริมธรรม เพราะเป็นความเชื่อของประเพณีอีสานว่า หากผู้ใดตายผิดธรรมชาติ หรือเสียชีวิตกะทันหัน จะนำมาฝังหรือเข้าเบ้าปูน 1-3 ปี เพื่อให้เหตุการณ์เย็นลง จากนั้นค่อยขุดนำขึ้นมาฌาปนกิจ หากไม่ทำตาม ญาติพี่น้องจะเสียชีวิตติดต่อกัน และต้องการรอให้แม่น้องเก้าพ้นโทษในเดือนสิงหาคม 2562 มาทำพิธีให้ลูกด้วย ซึ่งก็เพิ่งทำบุญอุทิศส่วนกุศลครบ 100 วัน ให้น้องเก้าเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 2 วันก่อน หลวงปู่ถนอม เจ้าอาวาสวัดส่งเสริมธรรม ได้ให้ชาวบ้านไปบอกตนว่า เบ้าที่บรรจุศพน้องเก้าแตก ผ้าปิดเบ้าเปิดออก ให้ตนมาโบกปูนให้เรียบร้อย วันที่ 1 มิถุนายน ตนและญาติจึงได้นำอุปกรณ์ไปโบกปูนปิดเบ้าให้หลาน โดยตนได้ไปส่องดูศพหลาน พบนอนศีรษะตกหมอน ญาติจึงเอามือล้วงเข้าไปเปิดผ้าออก ก็พบว่าบริเวณศีรษะน้องเก้าถูกเจาะ เอากระดูกหน้าผากไป ตนจึงไปปรึกษาญาติพี่น้อง เชื่อว่าพวกนิยมคุณไสย มนตร์ดำ มาลักเจาะกระดูกหน้าผากศพตายโหงเอาไปทำปั้นเหน่ง

...

"ตอนน้องเก้ามีชีวิตอยู่ตนก็รักหลานปานแก้วตาดวงใจ เพราะน้องเก้าเป็นเด็กหน้าตาดี พูดเพราะ ญาติและเพื่อนบ้านจะรัก พอทราบว่าจมน้ำเสียชีวิต ก็เสียใจร้องไห้แทบขาดใจ เพราะสงสารหลาน แต่พอรู้ว่ามีคนมาทุบเบ้า ลักเจาะกระดูกหน้าผากไปทำคุณไสย มนตร์ดำ เอาไปทำปั้นเหน่ง ยิ่งสงสารหลานมากขึ้น เพราะเชื่อว่าหลานต้องถูกสะกดวิญญาณ ฝากถึงคนที่มาลักกะโหลกหลานไป ให้นำมาคืน เพราะเมื่อถึงเวลาเผา หลานจะได้มีร่างกายครบ 32 และฝากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้"

ด้านหลวงปู่ถนอม เจ้าอาวาสวัดส่งเสริมธรรม เล่าว่า วัดนี้มีพระจำพรรษา 3 รูป เมื่อเช้าวันที่ 28-29 พฤษภาคม ได้เดินมาตรวจความเรียบร้อยภายในวัด และพบว่าเบ้าบรรจุศพน้องเก้าถูกทุบบริเวณด้านหน้า คิดว่าอากาศร้อนทำให้ปูนแตกออก หรือกิ่งไม้ตกใส่เบ้าจนแตกเสียหาย จึงให้ชาวบ้านไปบอกญาติมาโบกปูนปิด ไม่คิดว่าจะมีการลักกะโหลกหน้าผาก ตั้งแต่จำพรรษาอยู่วัดนี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก

ส่วนพระศราวุธ อัคคธัมโม พระลูกวัด เล่าว่า ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อน ขณะนั่งทำวัตรภายในกุฏิ ซึ่งอยู่ห่างจากเมรุประมาณ 200 เมตร ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงสวดมนต์บทพุทธาภิเษกดังมาจากหมู่บ้าน คิดว่ามีงานบุญ จึงไม่ได้สนใจ อีกทั้งสุนัขในวัดก็ไม่เห่าหอน ซึ่งหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในวัด สุนัขจะเห่า กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ทุบเบ้าลักกะโหลกดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.วิบูลย์ นนทะแสง สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี จากการตรวจที่เกิดเหตุ คนร้ายได้รื้อค้นเสื้อผ้า กระเป๋านักเรียนของผู้ตาย นำมาทิ้งไว้ภายนอกเบ้าปูน คนร้ายจะน่าจะเป็นพวกนิยมคุณไสยมนตร์ดำ หรือได้รับออร์เดอร์จากลูกค้ามา ซึ่งเมื่อปี 2557 เกิดเหตุลักกะโหลกผีตายโหงในป่าช้าพื้นที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคม อ.กุมภวาปี และ อ.น้ำโสม ซึ่งคนร้ายได้ถูกตำรวจจับดำเนินคดีหมดแล้ว จากนั้นก็ไม่เกิดเหตุอีก กระทั่งมาเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันที่วัดส่งเสริมธรรม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายแก๊งลักกะโหลกผีตายโหงพ้นโทษมาหมดแล้ว คาดว่าจะจับคนร้ายได้ในเร็วนี้.