กรมควบคุมโรคสั่งคุมเข้ม “โรคไข้เลือดออก” เหตุไม่ถึงห้าเดือน พบทั่วประเทศเสียชีวิตแล้ว 30 ราย พร้อมสั่งจับตาจังหวัดอุบลราชธานี พบตำบลเดียวตายแล้ว 2 ราย ด้าน ผวจ.อุบลฯ เด้งรับสั่งตั้งวอร์รูมติดตามแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด แนะประชาชนยึดหลัก “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ที่มียุงลายเป็นพาหะ ในปีนี้ส่อรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากข้อมูลสถานการณ์โรคไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 พ.ค.2562 พบผู้ป่วย 23,622 ราย เสียชีวิต 30 ราย ซึ่งในช่วงนี้เป็นฤดูฝนเป็นช่วงระบาดของโรคไข้เลือดออก จึงต้องดำเนินการและติดตามสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่า จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยมากที่สุด 1,424 ราย รองลงมา คือ จ.อุบลราชธานี มีผู้ป่วย 1,267 ราย ที่น่าสนใจคือพบว่ามีผู้เสียชีวิตในตำบลเดียวกันถึง 2 ราย ดังนั้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีจึงมีการตั้งวอร์รูมติดตามแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกไม่ให้มีการระบาดและขยายวงกว้าง จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดของ คร. ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี และคณะผู้เชี่ยวชาญจากกรมควบคุมโรคลงพื้นที่ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้นกับประชาชน
อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวอีกว่า สำหรับการประชาสัมพันธ์ คือ 1.ให้หน่วยงานราชการ ติดตามอย่างใกล้ชิด และวิเคราะห์สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง 2.ป้องกันผู้ป่วยเสียชีวิต โดยการจัดตั้ง Dengue Corner (เดงกี่ คอร์เนอร์) และการใช้ Dengue Chart (เดงกี่ ชาร์ต) ในการติดตามรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก 3.การควบคุมยุง โดยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกพื้นที่ ทุกสัปดาห์ เช่น สถานที่ราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล 4.พัฒนาความรอบรู้ของประชาชนให้เกิดความตระหนักว่าการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเป็นหน้าที่ของทุกคนต้องช่วยกันป้องกัน พร้อมทั้งสนับสนุนเวชภัณฑ์ให้กับโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
...
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ขอแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง เป็นต้น ป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัดโดยยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะใส่น้ำต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ทั้งนี้ จะสามารถป้องกันได้ 3 โรคในคราวเดียวกัน คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลาย นอกจากนี้ ประชาชนควรสังเกตอาการของตนเองและคนในครอบครัว หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลันและไข้นานเกินกว่า 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย เพราะหากเข้ามารับการวินิจฉัยช้า อาจเป็นเหตุสำคัญทำให้มีโรคแทรกซ้อนรักษายากขึ้นและเป็นปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตได้
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรครายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของปี 2561 ตั้งแต่ 1 ม.ค.-11 มิ.ย.ประเทศไทยมีผู้ป่วยแล้ว 17,302 ราย ผู้ป่วยเสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว 21 ราย ซึ่งเมื่อเทียบกับผู้ป่วยในปี 2562 ที่ยังไม่พ้นเดือน พ.ค. กลับพบผู้ป่วยแล้ว 23,622 ราย เสียชีวิตถึง 30 ราย