สั่นสะเทือนวงการหมอลำ เมื่อมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ให้ดำเนินคดีนางอุไร สีหวงศ์ หรือ นกน้อย อุไรพร ลูกทุ่งหมอลำชื่อดังเมืองอุดรธานี จากเรื่องราวเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีการยืมโฉนดที่ดินจำนวน 33 ไร่ มูลค่า 49 ล้านบาท พร้อมให้เซ็นสัญญาจำนองแลกกับเงินกว่า 4 ล้านบาท จนเวลาล่วงเลยถึงปัจจุบัน มีการนิ่งเฉยไม่ชดใช้ใดๆ

ส่วนความเคลื่อนไหวของนกน้อย อุไรพร ล่าสุดผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ พยายามโทรติดต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีการรับสายใดๆ

กระทั่งสอบถามไปยังปอยฝ้าย มาลัยพร หรือนายดวงจันทร์ มาลัย อดีตสมาชิกวงเสียงอิสาน ในยุครุ่งเรืองเมื่อหลายปีก่อน ทำงานร่วมกับนกน้อย อุไรพร มานานจนมีความสนิทสนม ระบุว่า เป็นห่วงสุขภาพแม่นกน้อย อุไรพร ได้โทรไปให้กำลังใจ บอกต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งตนพูดอะไรได้ไม่มากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องภายในของแม่นกน้อย โดยการนำที่ดินไปจำนอง ทางแม่นกน้อย ไม่ได้นำเงินทั้งหมดไปใช้คนเดียว อีกฝ่ายก็เอาไปใช้เช่นกันในการลงทุน เมื่อทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด สุดท้ายให้แม่นกน้อยชดใช้คนเดียว และที่ดินที่อ้าง มูลค่าไม่ถึง 30 ล้าน มีการไปจำนองเอาเงิน 2-3 ล้านบาท

“เมื่อช่วง 3-4 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจไม่ไปตามเป้า แม่นกน้อยคิดว่าเป็นฤดูกาลออกวง คิดว่าเงินจะเข้า แต่กลับไม่ใช่ งานไม่มีจนเงินช็อต ผมยืนยันแม่นกน้อย ไม่ใช่คนอย่างนั้น ไม่มีนิสัยคดโกง ยอมรับเมื่อปัญหาสะสมมาเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาไม่มีเงินใช้เขา ตอนนี้แม่แย่จริงๆ หากยุบวงไปตั้งแต่แรกเรื่องคงไม่เกิด ที่ผ่านมาทุกคนเคยเตือน รวมทั้งผม เคยเตือนตอนช่วงจะออกจากวง แต่แม่ไม่ฟัง ส่วนเรื่องหลวงพ่อ ผมก็รู้จักตั้งแต่ก่อนเข้าวง อย่าดึงท่านมาเกี่ยว แต่ตกกระไดพลอยโจนไปด้วย เพราะท่านเป็นที่ปรึกษา ไปช่วยพูดให้”

...

ปอยฝ้าย พร้อมภรรยา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่า สงสารแม่นกน้อย อยากให้พักผ่อนใช้ชีวิตไปเที่ยวให้มีความสุข หากยุบวงอย่างที่เคยแนะนำ ก็คงไม่เจ็บตัว และยอมรับแม่นกน้อย ติดเงินลูกน้อง เพราะมีคนที่ออกจากวงเสียงอิสานเมื่อ 1-2 ปี มาเล่าสู่กันฟังบ้าง ที่ผ่านมาตนก็ช่วยแม่นกน้อย ไม่ได้ทอดทิ้ง ส่วนช่วยเรื่องอะไรนั้นขอไม่บอก เพราะน้ำท่วมปาก เกรงว่าคนจะไม่เข้าใจหาว่าเนรคุณ จนตอนนี้ไม่มีหนทางจะช่วยแล้ว เพราะไม่รู้จะช่วยอย่างไร ได้แต่ภาวนาว่าสิ่งที่ได้ช่วยไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกตน ที่ผ่านมาเคยพูดกับหลวงพ่อ กับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ไม่กล้าคุยกับแม่นกน้อย

“ถามว่าสงสารมั้ย ผมตอบเลยสงสารแม่นกน้อยจับใจ อยากให้ผ่านพ้นวิกฤติ เพราะช่วยมาหมด จนช่วยอะไรไม่ได้แล้วตอนนี้ ตัวผมเองก็แย่ งานเพลงไม่ติดตลาด โชคดีมีงานละครมาช่วย แบ่งเบาภาระในครอบครัว และข่าวที่ออกมาเขียนเกินความจริง จนรู้สึกเห็นใจแม่นกน้อย เคยบอกให้ยุบวงไม่ยอมยุบ แม่นกน้อยยังคงดันทุรัง ยืนยันจะตายคาวง และหลวงพ่อก็เคยเตือนมาแล้ว บอกให้ยุบวง ก่อนจะไม่มีที่ยืน ผมยืนยันอีกครั้งเคยช่วยแม่นกน้อย เพราะความจริงก็คือความจริง ตัวแม่นกน้อยรู้ดีที่สุด”

พร้อมยืนยันข่าวสามีแม่นกน้อยติดการพนันงอมแงม ข้ามไปเล่นต่างประเทศจนหมด 30 ล้าน ไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาอาจเล่นหวย เล่นไก่ชนบ้าง และเรื่องที่เกิดขึ้นทางสามีแม่นกน้อย ซึ่งขณะนี้มีปัญหาสุขภาพ ได้ห้ามแม่นกน้อยไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวใดๆ และในฐานะที่ตนรู้จักแม่นกน้อย ขอบอกอีกครั้งแม่เป็นคนดีมาก มีคุณธรรม แต่ด้วยสถานการณ์ทำให้เป็นแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาแม่นกน้อยไม่ได้ตั้งใจให้เกิด “ผู้หญิงคนนั้น ก็เอาเงินจากการจำนองที่ดินไปใช้ลงทุนเหมือนกัน แต่เมื่อเกิดปัญหา จะให้แม่นกน้อยชดใช้คนเดียวทั้งหมด”

ก่อนปอยฝ้าย พูดทิ้งท้ายว่า "ลึกๆ แล้ว แม่นกน้อยไม่คิดจะโกงใคร มาพลาดเพราะขึ้นบนหลังเสือแล้วลงไม่ได้ เพราะแม่เคยบอกไม่ขอยุบวงไม่ว่าจะเกิดอะไร ขอตายคาวงดีกว่า และเชื่อว่าแม่นกน้อย ไม่ท้อต่อปัญหา เพราะเป็นคนเข้มแข็งมาก เป็นคนต่อสู้ ที่ผ่านมาเคยเปรยๆ บ้าง ว่าอยากบวช เพียงแต่ขอเวลาระยะหนึ่งเท่านั้น”