วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี 1 ในวัดต้นแบบบริหารจัดการเงิน ไวยาวัจกรแจง พระวัดป่าไม่แตะต้องเงินตั้ง กก.การเงินดำเนินการ พิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอเบิกจ่าย ไม่ยุ่งเงินทอนวัด...

จากกรณีที่ นายณรงค์ ทรงอารมณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (รอง ผอ.พศ.) แถลงว่า ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีบันทึกข้อความที่ พศ.0001/06036 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2561 เรื่อง ขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัดนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีวัตถุประสงค์ เพื่อขอทราบแนวทางปฏิบัติได้จริง หลักการคือภิกษุสงฆ์มิต้องมาถือเงิน แต่ผ่านบัญชีส่วนกลาง เพื่อให้วัดที่ยังไม่ได้ดำเนินการนำไปพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวัดนั้นๆ และปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยต่อไป

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี หนึ่งในวัดที่มีการดำเนินการตามบันทึกข้อความฉบับนี้ และวัดกำลังก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตาพระมหาบัว ที่เปิดรับบริจาคจากศิษยานุศิษย์ของหลวงตาพระมหาบัว และพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน ที่มีมูลค่าก่อสร้างประมาณ 700 ล้านบาท ที่เป็นเงินบริจาคจากศิษยานุศิษย์ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ประมาณกลางปี 2563 

นายกอบเกียรติ กาญจนะ อดีตรอง ผวจ.อุดรธานี ไวยาวัจกร วัดเกษรศีลคุณ เปิดเผยว่า วิธีบริหารจัดการเงินของวัดป่าบ้านตาดทุกวันนี้ ยังคงใช้วิธีการแบบเดิมสมัยที่หลวงตาพระมหาบัว ท่านยังไม่ละสังขาร ที่มีคณะกรรมการการเงินเข้ามาดูแล ทุกคนเข้ามาทำด้วยศรัทธา ต้องการสนองคุณพระพุทธศาสนา และบูชาหลวงตาฯ ท่าน ทั้งนี้เรื่องของการเงิน พระวัดสายธรรมยุตท่านจะไม่ถือเงิน ไม่จับเงิน ท่านจะรับแต่ใบปวารณาเท่านั้น ทางวัดจึงมีคณะกรรมการเกี่ยวกับเรื่องการเงิน และก็แยกบัญชีเงินของวัดเป็นบัญชีๆ ไป 

...

ไวยาวัจกร วัดเกษรศีลคุณ กล่าวว่า ปกติการทำบุญของวัดป่าบ้านตาด พุทธศาสนิกชนทั้งหลายที่ศรัทธา จะโอนเงินเข้าในบัญชีแต่ละบัญชี ที่ทางวัดได้แจ้งให้ทราบทางสื่อต่างๆ ของวัด และยังมีการตั้งตู้บริจาคไว้ตามจุดต่างๆ คือ ที่ศาลาใน ศาลานอก ที่กุฏิของหลวงตาฯ โดยแต่ละตู้รับบริจาค จะระบุชื่อไว้ชัดเจนว่า นำไปใช้จ่ายเพื่อกิจการใดของวัด และในวัตรปฏิบัติของพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ทุกๆ เช้าหลังจากท่านออกบิณฑบาตแล้ว ท่านจะฉันอาหารเช้าที่ศาลาใน หลังจากนั้นท่านจะพูดคุยแสดงธรรมะกับญาติธรรม ที่จะมีผู้บริจาคเงิน โดยจะมีเจ้าหน้าที่การเงินของวัดเข้ามาดูแล

วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี โชว์เป็นต้นแบบบริหาร พระไม่ต้องจับเงิน

"ผู้ที่จะบริจาคเงินก็จะแสดงเจตนาระบุเลยว่า เงินยอดนี้ใช้สร้างพิพิธภัณฑ์ ยอดนี้ให้ใช้ในกิจการทั่วไปของวัด ยอดนี้ถวายหลวงพ่อสุดใจฯ ทางเจ้าหน้าที่การเงิน ก็จะนำเงินมาหยอดลงในตู้บริจาคที่เขียนระบุไว้ชัดเจน และทุก ๆ สิ้นเดือน ทางกรรมการการเงินของวัด กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาร่วมกันเปิดตู้บริจาคและนับเงิน และประกาศแต่ละยอดของแต่ละตู้บริจาค มีเงินเข้ามาในแต่ละบัญชีจำนวนเท่าไร และจะกราบเรียนพระอาจารย์สุดใจฯ ให้ท่านรับทราบ โดยอำนาจการเบิกจ่ายจะเป็นท่านพระอาจารย์สุดใจ แต่เพียงผู้เดียว ทั้งยอด 5 ตู้บริจาค" นายกอบเกียรติ กล่าว

ไวยาวัจกร วัดเกษรศีลคุณ กล่าวต่อว่า ส่วนยอดบริจาคใหญ่ คือ เรื่องของการก่อสร้าง พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตาพระมหาบัว ตั้งแต่เปิดรับบริจาคมาจนถึงปัจจุบัน มียอดเงินเข้ามาประมาณ 640 ล้านบาท และมีการใช้จ่ายตั้งแต่เริ่มก่อสร้างวันที่ 17 มิ.ย.2560 ใช้เงินไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ตอนนี้มีเงินเหลือในบัญชีประมาณ 525 ล้านบาท ที่ยังคงเหลืออยู่ ซึ่งเงินในส่วนนี้ พระอาจารย์สุดใจ ท่านจะเป็นผู้มีอำนาจลงนามสั่งจ่ายแต่เพียงผู้เดียว ส่วนการก่อสร้าง มี ผวจ.อุดรธานี เป็น ปธ.กก.อำนวยการก่อสร้าง และมีคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ อีก ที่จะคอยตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนรับงาน และกลั่นกรองดูรายละเอียดก่อนให้พระอาจารย์สุดใจฯ ท่านลงนามอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้าง 

วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี โชว์เป็นต้นแบบบริหาร พระไม่ต้องจับเงิน

ด้าน นางอินถวา นารินทร์รักษ์ และ นางยินใจ เชื้อกุลา คณะกรรมการเงินวัดป่าบ้านตาด เปิดเผยว่า การเข้ามาทำหน้าที่ดูแลเรื่องเงินของวัดไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด เพราะพวกเราทำมาตั้งแต่สมัยที่หลวงตาพระมหาบัว ท่านทำโครงการช่วยชาติ ที่ท่านยังไม่ละสังขาร หลวงตาท่านไปที่ไหน เราก็จะตามไปดำเนินการเรื่องเงินทองบริจาคโดยตลอด ซึ่งหลวงตาท่านไว้ใจให้เรามาดูแล พอหลังจากปิดโครงการช่วยชาติไปแล้ว ก็มีคำสั่งใหม่ของท่านพระอาจารย์สุดใจขึ้นมา ที่มีกรรมการการเงินเพียงแค่ 2-3 คน ที่มีแต่ผู้สูงอายุ แต่ก็ไม่หนักใจ เพราะพวกเราเคยทำมาก่อน รวมทั้งทางธนาคารที่เข้ามารับเงินไปฝากก็ร่วมงานกันมากว่า 30 ปี จนรู้ใจกัน 

...

กรรมการด้านการเงิน ฯ กล่าวต่อว่า ช่วงไหนใครไม่สะดวก พวกเราก็จะสลับผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล เมื่อรับเงินบริจาคมา เราก็จะทำตามที่เขาระบุว่า ต้องการบริจาคในส่วนไหน เราก็จะนำไปหยอดตามตู้ที่ผู้ประสงค์บริจาคทำบุญ และสิ้นเดือนพวกเราก็จะมาเปิดตู้บริจาค ที่มีพระอาจารย์สุดใจฯ มีกุญแจเปิดได้เพียงผู้เดียว เมื่อนับเงินเสร็จทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก็จะนำเงินเข้าบัญชีแยกตามส่วนที่รับบริจาคมา โดยพวกเราจะไม่มีการถือเงินของตู้บริจาคแต่อย่างใด และจะนำเรียนพระอาจารย์สุดใจ ว่าแต่ละตู้ได้เงินบริจาคเท่านั้นเท่านี้ 

“พวกเราดีใจ ที่วัดป่าบ้านตาด ได้เป็นวัดต้นแบบในการบริหารจัดการเรื่องเงิน เพราะที่ผ่านมามีวัดหลายวัดที่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินทอนวัด ทำไมเจ้าอาวาสวัดมีเงินมากมายเป็นร้อย ๆ ล้าน ซึ่งวัดป่าบ้านตาดเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งพวกเราเข้ามาทำงานกันด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ใจซื่อมือสะอาด พระอาจารย์ท่านก็ไว้ใจเรา โดยเราจะทำให้เต็มที่ เต็มกำลัง เต็มความสามารถ ให้สมกับที่ท่านไว้วางใจให้เข้ามาทำในส่วนนี้ เรามาช่วยด้วยใจจริงๆ” นางอินถวา และนางยินใจ กล่าว.