ออเจ้า ชาวอุดรฯ แห่ซื้อโจงกระเบนห่มสไบเล่นสงกรานต์ ทำตลาดผ้าคึกคัก แม้แต่คนไทยที่อยู่ที่ออสเตรเลีย ยังฝากซื้อชุดแม่หญิงการะเกดและพี่หมื่นไปใส่ในงานสงกรานต์ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ตลาดผ้าห้าแยก ใจกลางเมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นย่านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดใน จ.อุดรธานี ทุกร้านจะนำเสื้อลายดอก และชุดไทย โจงกระเบน ห่มสไบ ทั้งชุดผู้ใหญ่และเด็กมาแขวนและตั้งโชว์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะที่ร้าน “น้องหญิง” ขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ตลาดผ้าห้าแยก ถนนโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเจ้าของร้านและพนักงานขาย พากันนุ่งโจงกระเบน ห่มสไบ บริการลูกค้า ทำให้มีประชาชนเข้ามาซื้อเสื้อผ้าชุดไทยจำนวนมาก
น.ส.วนารัตน์ เพชรน้อย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 5 บ้านท่ายม ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อาศัยอยู่เมืองดาวิน ประเทศออสเตรเลีย เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงสงกรานต์ ได้มาซื้อชุดไทยออเจ้าไปใส่เล่นสงกรานต์ กว่า 10 ชุด ทั้งชุดเด็กๆ ด้วย และมีเพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่ประเทศออสเตรเลีย ฝากซื้อชุดไทย เพื่อไปใส่ในงานเทศกาลสงกรานต์ที่ชาวไทยในออสเตรเลียจัดขึ้น ในวันที่ 28 เมษายน ที่ออสเตรเลีย ก็มีคนไทยสั่งชุดไทยจำหน่าย แต่ราคาแพงมาก จึงได้มาซื้อที่นี่และมีเพื่อนฝากซื้อด้วย
“ช่วงนี้ละครบุพเพสันนิวาสดังมากในออสเตรเลีย และยุโรป คนไทยและฝรั่งก็ดูละคร ต่างชอบขนบธรรมเนียมประเพณี และการแต่งกายของตัวละคร ทำให้ชาวไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศภูมิใจในความเป็นไทยมาก ยิ่งใกล้เทศกาลสงกรานต์ ชาวไทยในต่างแดนยิ่งตื่นเต้น ที่จะได้ใส่ชุดไทยแม่หญิงการะเกด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เราภูมิใจในความเป็นไทยมากค่ะ”
น.ส.ณภัทร ชัยนรานนท์ อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน “น้องหญิง” ขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ตลาดผ้าห้าแยก ถนนโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี เปิดเผยว่า ช่วงนี้ชุดไทยออเจ้าขายดีมาก โดยเฉพาะ โฉงกระเบนห่มผ้าสไบแม่หญิงการะเกด และพี่หมื่น ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ชุดการะเกด โจงกระเบนแบบกินรีและผ้าสไบชุดละ 350-450 บาท แล้วแต่เนื้อผ้า ชุดเด็ก 200 บาท ชุดพี่หมื่นโจงกระเบนและเสื้อชุดละ 300 บาท ชุดเด็ก 200 บาท ชุดเด็กขายดีมาก ผลิตไม่ทัน ส่วนเสื้อลายดอกที่เคยขายดี ปีนี้ลดลง แต่จะมีหน่วยงานของรัฐมาซื้อยกโหล เพราะใส่เป็นทีม
...
“หลังจากละครบุพเพสันนิวาส ชุดโจงกระเบนห่มสไบ ขายดีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขายดีมาก คนไทยจะมาซื้อไปให้ลูกหลานใส่ บางคนซื้อไปทดลองใส่แล้วก็กลับมาซื้ออีก “ละครบุพเพสันนิวาส” ทำให้เศรษฐกิจที่ซบเซามานาน ประชาชนไม่กล้านำเงินออกมาใช้จ่าย ให้กลับมาค้าขายคึกคัก เศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้พ่อค้าแม่ค้ารู้สึกหายใจโล่งขึ้นค่ะ”