(ภาพจาก เรือนขวัญ ออร์คิดส์)

หากกล่าวถึง “สิ่งที่มองไม่เห็น” เชื่อว่าทุกสถานที่ ทุกภาค ทุกจังหวัด ก็ย่อมมีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ หรือผู้คนในท้องถิ่น เช่นเดียวกับจังหวัดตาก ซึ่ง ไทยรัฐออนไลน์ ขอนำเรื่องราว ตลอดจนความเชื่อของผู้คนในท้องถิ่น ที่มีต่อวีรบุรุษผู้กล้าท่านหนึ่งที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองแม่สอด-ตาก มาเล่าขานให้ทราบ วีรบุรุษท่านนี้คือ “เจ้าพ่อพะวอ”

จากคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่น ทำให้ทราบว่า ในอดีต เจ้าพ่อพะวอ เป็นนักรบชาวกะเหรี่ยงปะกากะญอ และเป็นนายด่านแม่ละเมาเมืองหน้าด่านของไทยในสมัยของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งลักษณะของ เจ้าพ่อพะวอ นั้น ร่างกายกำยำ สูงใหญ่ ถือง้าวเป็นอาวุธประจำตัว และมีใบหน้าที่ดุดัน

โดยมีการเล่าขานถึงวีรกรรมของท่านเจ้าพ่อพะวอ ที่คอยปักหลักต่อสู้กับชาวพม่า อย่างกล้าหาญและเสียสละชีพ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน นั่นคือที่มาของผู้กล้าหาญที่ถูกเล่าต่อๆ มา จนทำให้ผู้คนต่างยกย่องท่าน

ปัจจุบัน ผู้คนยังคงเคารพบูชาท่านที่ “ศาลเจ้าพ่อพะวอ” ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองอำเภอแม่สอด และบริเวณถนนแม่สอด-ตาก ที่มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ที่เดินทางผ่านไปผ่านมา ไม่เว้นแม้แต่ชาวพม่า ที่ต้องมา กราบไหว้บูชา เพื่อให้ท่านบันดาลความสุข และความเจริญให้ทุกครั้งไป

...

สำหรับ ตำนานเรื่องเล่าที่ถูกเล่าขานต่อกันมาในสมัยก่อนที่บ้านเมืองยังไม่เจริญในทุกวันนี้ ถ้าหากมีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้น ผู้คนในท้องถิ่นก็มักจะได้ยินเสียงคำรามก้องไปทั่วของ “อาม๊อก” หรือ ปืนหินที่อยู่บนผาขุนเขาพะวอ และในบางครั้งก็อาจจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าวิ่งรอบๆ เมือง พร้อมกับเสียงพรวนอีกด้วย

ด้วยเหตุที่ท่านเจ้าพ่อพะวอเป็นนักรบโบราณชาวกะเหรี่ยงตามที่เล่ามาข้างต้นนั้น ทำให้ท่านชอบเสียงปืนและประทัดเป็นอย่างมาก ทำให้เป็นคำตอบได้ว่า ทำไมผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา จึงชอบจุดประทัดถวาย หรือไม่ก็จะบีบแตร แสดงความเคารพทุกๆ ครั้งเมื่อขับรถถึงหน้าศาลเจ้าพ่อพะวอ

คนในท้องถิ่น เล่าอีกว่า หากคนในพื้นที่ ขับรถที่ผ่านหน้าศาลเจ้าพ่อพะวอ จงใจไม่บีบแตร ก็อาจจะพานให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และหากต้องการขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต ก็จะต้องจุดประทัดหรือยิงปืน เพื่อถวายแด่ท่านด้วย

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าที่ถูกเล่าขานต่อๆ กันมาของผู้คนในท้องถิ่นแม่สอด จังหวัดตาก ที่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเสียสละของวีรบุรุษของชาติในอดีต ที่ประชาชนยังคงรักและเคารพบูชาจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังทำให้หลายท่านได้ทราบคำตอบว่า ทำไมต้องบีบแตรรถทุกครั้งเมื่อสัญจรผ่านศาลเจ้าพ่อพะวอ หรือ ต้องจุดประทัดถวายท่านนั่นเอง