แกนนำ นปช.เชียงใหม่ ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก "ลุงยิ้มตาสว่าง" ปัดเอี่ยวกรณียิงกลุ่ม คปท. เสียชีวิต 1 เจ็บ 3 อ้างโพสต์ข้อความ เพราะสุดทนกับการกระทำของแกนนำ กปปส. ป้อง "โกตี๋" ก็ไม่เกี่ยวข้องเช่นกัน...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 57 มีรายงานว่า นายพฤกษ์ พฤกษ์สุนันท์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 390/9 หมู่ 5 ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน เจ้าของเฟซบุ๊ก ชื่อ "ลุงยิ้มตาสว่าง" พร้อมด้วย ด.ต.พิชิต ตามูล แกนนำกลุ่มแดง นปช.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน กับ ร.ต.ท.สรรเสริญ ประจำเมือง พงส.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น นายพฤกษ์ ให้การว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้กล่าวปราศัยบนเวทีที่สวนลุมพินี กล่าวหาตน และ โกตี๋ ปทุมธานี (นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ) ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของมวลชน คปท. ตนจึงมาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งทาง พงส. ได้ลงบันทึประจำวันไว้ตามวัตถุประสงค์ของผู้แจ้งต่อไป
...
นายพฤกษ์ กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าตนสนิทสนมกับ โก๋ตี๋ แต่ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง การโพสต์ข้อความทางเฟซบุุ๊กเมื่อวานนั้น เป็นเพราะรู้สึกรำคาญนายสุเทพ ที่ชอบพาพรรคพวกขึ้นทางด่วนโดยไม่จ่ายตังค์ และไประรานเขาไปทั่ว ใจจริงแล้วอยากให้เขาลงมาเดินทางด้านล่างเหมือนมนุษย์ปกติ ตอนโพสต์ก็ไม่คิดอะไร เพราะการกระทำของนายสุเทพ ทำให้คนเขาเดือดร้อนไปทั่ว ลองคิดดู ในระยะ 300 เมตรมีใครเข้าใกล้นายสุเทพได้ไหม เพราะมีการ์ดล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้หมด เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นายสุเทพก็รู้ว่า เขาไปเอาอะไรออกมาจากแจ้งวัฒนะ ที่จะเอาไปไว้ที่สวนลุมฯ
แกนนำ นปช.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ส่วนที่สอดคล้องกับเหตุยิง คปท.นั้น ขอยืนยันว่า ตนอยู่บ้านพักที่ จ.ลำพูน มาตลอด ส่วนโกตี๋ก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วย แต่ที่ต้องมาแสดงเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า ข้อความที่ตนโพสต์ไปนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน
"ผมสนิทกับโกตี๋มาก เขาชวนผมให้มาอยู่ด้วยกัน แต่ผมตอบไปว่าไม่เป็นไร ผมทนได้ โกตี๋ถูกล่า ผมเองก็ถูกล่าเช่นกัน ที่ผ่านมาเคยถูกลอบยิงที่กรุงเทพฯ มาแล้วหลายครั้ง พอมาเชียงใหม่เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ก็ถูกลอบยิงอีก 1 ครั้ง จนรถเก๋งกระจกแตก แต่ผมไม่ได้แจ้งความเท่านั้น ถือว่าเป็นเรื่องเล็กสำหรับผม ผมว่าการระรานของเขาก็ควรหยุด แล้วรอองค์กรอิสระทำงานไป" นายพฤกษ์ กล่าว.