กรณีรถไฟชนม้าตายที่ จ.ลำปาง ล่าสุด ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมแจ้งความเอาผิดเจ้าของม้า เนื่องจากเสาสัญญาณของหลวงได้รับความเสียหาย พร้อมชี้แจง พขร.ขับด้วยความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เบรกฉุกเฉินแล้ว

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวินาทีที่รถไฟ ขบวนเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ พุ่งเข้าชนม้าเมื่อเวลา 08.46 น. วันนี้ 12 พ.ย. 67 โดยในคลิปเป็นภาพวินาทีรถไฟชนม้าที่กำลังวิ่งข้ามรางรถไฟจนร่างม้ากระเด็นกระแทกเสาสัญญาณไฟที่อยู่ข้างรางรถไฟจนม้าร่างตกกระแทกอย่างจัง ดิ้นทุรนทุราย เลือดออกจมูกและเสียชีวิตในที่สุด

พร้อมระบุข้อความว่า “รู้สึกเศร้าสงสารม้าครับ พูดไม่ออก ผมขาสั่นไปหมด ม้าตกใจรถไฟวิ่งตัดรางมาอีกฝั่งแล้ววิ่งขนานกับทางรถไฟ ถ้ารถไฟลดความเร็วแล้วชะลอเบรกหรือบีบแตรไล่คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เสากระเด็นมาห่างจากผมถ่ายเพียงไม่กี่เมตร

ซึ่งเคสนี้ต้องเป็นกรณีศึกษา ผมไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก รถไฟชะลอความเร็วเมื่อใกล้ถึงสถานีจะได้ไหม เตรียมพร้อมที่จะเบรกไม่มีสิ่งกีดขวาง ไม่ว่าคนหรือสัตว์หรือรถยนต์ ยานพาหนะของชาวบ้านอาจจะขวางทางรถไฟอยู่ ไม่ควรเหยียบคันเร่งส่งชนแล้วเบรกเสียเวลานาน แต่ชะลอเบรกและไม่ชนเสียเวลานิดหน่อยครับ”

จากโพสต์ดังกล่าว ทำให้มีการแชร์คลิปและมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

...

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง พบกับนายรัตชัย จิตนะชัย อายุ 46 ปี เจ้าของม้า พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเลี้ยงม้ามากว่า 20 ปี ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองเอาม้าอีกตัวมาล่าม แต่เจ้าจูเนียร์ ม้าเพศผู้ สีน้ำตาล อายุ 14 ปี (ตัวที่ถูกรถไฟชน) เห็นม้าที่เป็นเพื่อนกันออกมาจากคอก คาดว่ามันเลยวิ่งตามมา โดยที่ตนเองไม่รู้และออกไปเกี่ยวหญ้าให้ม้ากิน มารู้ตัวอีกทีก็มีคนมาบอกว่าม้าถูกรถไฟชนเสียชีวิต ตนเองจึงชำแหละม้าออกเป็นชิ้นๆ เพื่อจะได้ง่ายต่อการฝังเพราะม้าตัวใหญ่มาก หากฝังต้องจ้างรถแบคโฮมาขุด ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายมาก แต่ต่อมาทางวัดติดต่อมาขอซื้อซากม้าเพื่อจะนำไปเผาให้และทำพิธีให้โดยได้โอนเงินมาให้ 5,000 บาท แต่มาทราบภายหลังว่าวัดขอรับบริจาคเพื่อซื้อม้าตัวดังกล่าว

ทั้งนี้ตนเองเป็นคนเลี้ยงม้ารักม้าทุกตัว ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับม้าของตน และด้วยความผูกพันของคนเลี้ยงและม้า ตนคงไม่ชำแหละม้ากินอย่างแน่นอน เพราะเราก็รักม้าของเราเช่นกัน

ขณะที่ นายสาริน จันทราภิรมย์ รักษาการสารวัตรแขวงรถจักรลำปาง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น ทางการรถไฟลำปางได้รับทราบแล้ว ขณะนี้จะได้สอบถามไปยังพนักงานขับรถไฟถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งตามระเบียบของการรถไฟนั้น ระยะทางวัดจากศูนย์กลางระหว่างรางรถไฟระยะรัศมี ทั้งซ้ายทั้งขวาในระยะ 40 เมตรจะเป็นพื้นที่ของการรถไฟทั้งหมด หากผู้ใดจะเข้ามาเลี้ยงสัตว์ หรือปลูกข้าวทำนาในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องได้รับขออนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทย

ส่วนเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น เมื่อเช้านี้ได้สำรวจหัวรถจักรของขบวนรถไฟแล้ว ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่พบว่ามีความเสียหายบริเวณเสาสัญญาณข้างรางรถไฟ ล้มพังเสียหายหลังจากรถไฟชนม้าแล้วร่างม้าไปกระแทกฟาดกับเสาจนเกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าว และทางการรถไฟเตรียมแจ้งความเอาผิดเนื่องจากเสาสัญญาณของการรถไฟเกิดความเสียหาย

โดยเบื้องต้นทราบว่าช่วงระหว่างดังกล่าว รถไฟขับด้วยความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เดิมต้องวิ่ง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และหลังเกิดเหตุแล้วทางขบวนรถไฟได้ใช้เบรกฉุกเฉินและสามารถเบรกทำให้รถไฟหยุดได้ระยะทาง 800 เมตร ซึ่งโบกี้ขบวนสุดท้ายห่างจากจุดที่ม้าตายเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น