"พ่อเมืองเพชรบูรณ์" ฟิวส์ขาด หลังข่าวรั่วทำให้นายทุนรุกภูทับเบิก ขนเครื่องจักร อุปกรณ์หนีรอด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปจับกุม เชื่อมีเกลือเป็นหนอน พร้อมเตือนประชาชนให้เช็กความถูกต้อง ย้ำ อย่าเชื่อข่าวลวง เพราะที่ดินบนภูทับเบิกอยู่ในการกำกับดูแลกรมป่าไม้
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 67 นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจยึดและจับกุมผู้เข้าทำประโยชน์ในแปลงที่ดินเดิมที่เคยเป็นร้านอาหารโรงเตี๊ยมบนแหล่งท่องเที่ยวภูทับเบิก ม.16 ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดินเดิมที่เคยถูกจับกุมตรวจยึดดำเนินคดี และบังคับใช้กฎหมาย ถูกรื้อถอนมากว่า 8 ปี ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 59 โดย ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์, อธิบดีกรมป่าไม้, อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และ กอ.รมน. ได้สนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้, ตำรวจ, ทหาร, กอ.รมน. และ อส.จำนวนกว่า 500 นาย เข้าเปิดปฏิบัติการรื้อถอน 19 รีสอร์ตที่ถูกคำสั่งให้รื้อถอน
นายกฤษณ์ กล่าวว่า แปลงที่ดินดังกล่าวตนเคยร่วมเข้าปฏิบัติการรื้อถอนตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดหล่มสัก และเป็นพื้นที่ในการกำกับดูแลของกรมป่าไม้ ในสถานะของความเป็นป่าตั้งแต่ปี 2559 และเป็นพื้นที่ต้องห้ามในการเข้าทำประโยชน์ หรือครอบครองก่อสร้างใดๆ ได้ และยังจะต้องนำไปปลูกป่าทดแทน ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ก็ได้ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.หล่มเก่า ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่สามารถดำเนินการจับกุมเครื่องจักรได้มากกว่านี้ เพราะถูกขนย้ายออกก่อนรวมถึงการหลบหนีของช่างที่ทำงาน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นๆ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงและทำการจับกุมนั้น คาดว่าจะเกิดจากการข่าวที่รั่วไหล แต่จะรั่วไหลจากจุดไหนก็ต้องทำการตรวจสอบกันต่อไป
...
ส่วนการแก้ไขปัญหาภูทับเบิกนั้น ล่าสุดวันนี้เราได้มีการสำรวจความต้องการของชาวม้งในพื้นที่ซึ่งเคยอยู่อาศัยมาค่อนข้างนานแล้ว ซึ่งแต่ก่อนเคยจะมีการจัดตั้งนิคมชาวเขา แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งได้รับคำตอบ 3 แนวทาง คือ 1.ต้องการให้เป็นนิคมตามเจตนารมณ์ที่เคยมีมาเหมือนเดิม 2.ต้องการให้เป็นที่ดินธนารักษ์ เพื่อจะได้ให้ทุกคนประกอบกิจการและอยู่อาศัยได้ 3.ต้องการให้ทำเป็นโครงการ คทช. จึงได้รวบรวมความต้องการทั้งหมดส่งให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาตินำไปพิจารณาดำเนินการหาแนวทางแก้ไขเลือกแนวทางที่ดีที่สุด ส่วนการบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเดิมที่ถูกศาลพิพากษานั้นพบว่ามีแปลงเดียวคือพื้นที่ตั้งร้านอาหารโรงเตี๊ยมเดิมเท่านั้น แต่ถ้าตรวจพบการกระทำความผิดเพิ่มเติมในแปลงอื่นๆ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
"ขอฝากสื่อแจ้งเตือนถึงพี่น้องชาวภูทับเบิกและประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อกรณีที่มีผู้ใดไปกล่าวอ้างว่าภาครัฐได้อนุญาตให้ก่อสร้างในพื้นที่ภูทับเบิก โดยเฉพาะบริเวณที่ดินเดิมที่ถูกศาลพิพากษาแล้วนั้นไม่เป็นความจริง และขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ที่ว่าการอำเภอหล่มเก่า หรือกับเจ้าหน้าที่ พม.จ.เพชรบูรณ์ เพราะที่ดินบนภูทับเบิกนั้นอยู่ในการกำกับดูแลและรับผิดชอบของกรมป่าไม้" ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าว
ด้าน พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า ผิดหวังกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้เพียงแค่ 1 ราย และไม่สามารถตรวจยึดเครื่องจักรหนักต่างๆ อีกหลายรายการที่ถูกขนย้ายก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึงประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุเกิดจากการรั่วไหลของความลับทางราชการในการปฏิบัติหน้าที่
แหล่งข่าวแจ้งว่า มีนายทุนที่เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ภูทับเบิกบางรายมีเส้นสายใหญ่โต ใกล้ชิดข้าราชการระดับสูงหลายหน่วยงานทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง หรือแม้กระทั่งระดับประเทศ พร้อมประกาศกร้าวว่าจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม หลัง พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ จะเกษียณอายุราชการในอีก 4 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอในการเข้าทำประโยชน์ในทุกพื้นที่ของเพชรบูรณ์ได้อีกต่อไป และในวันนี้กลุ่มนายทุนก็ไม่เหมือนวันก่อนที่ผ่านมาแล้ว เพราะทุกวันนี้มีทั้งเงินอำนาจและคอนเนกชันมากมาย ไม่มีทางที่จะเอาผิดถึงตัวได้อย่างแน่นอน.