ระทึก โคมลอยยี่เป็งตกใส่บ้านกลางตลาดริมแม่น้ำปิง เมืองเชียงใหม่ เผาร้านค้าเก่าแก่อายุ กว่า 100 ปี วอด 9 คูหา เสียหายกว่า 100 ล้านบาท เจ้าของร้านสุดช้ำแทบหมดตัว หลังบ้านและสินค้าพินาศ ยืนยันก่อนเกิดเหตุเห็นคนฝ่าฝืนจุดโคมลอยเล่นกันเอิกเกริก ทั้งที่เป็นพื้นที่ห้าม กระทั่งมีชาวบ้านเห็นร่วงลงหลังคาบ้าน เกิดเปลวไฟลุกลามจากชั้นบนลงชั้นล่างอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุเทศบาลสั่งห้ามเข้าพื้นที่ รอให้วิศวะตรวจสอบโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย
เหตุชาวบ้านฝ่าฝืนจุดโคมลอยคืนลอยกระทงตกใส่หลังคาบ้านกลางตลาดดอกไม้ริมแม่น้ำปิง เผาร้านค้าเก่าแก่วอดเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 28 พ.ย. เจ้าหน้าที่ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงใหม่ รับแจ้ง เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารร้านค้าใกล้ตลาดดอกไม้ ริมแม่น้ำปิง ถนนไปรษณีย์ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ รายงานนายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายก เทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ทราบและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ นำรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ไปฉีดน้ำดับไฟ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้สภาพเก่า อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ปลูกเรียงรายหลายคูหา ส่วนใหญ่เปิดร้านขายของร้านค้าส่งหลากหลายประเภท พบไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง กลุ่มควันพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า เนื่องจากชั้นบนเป็นโครงสร้างไม้ ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ช่วงเกิดเหตุมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างเคียงพากันขนข้าวของมีค่าเท่าที่จะหยิบฉวยได้ออกมาไว้ด้านนอก เพราะกลัวไฟจะลามไหม้บ้านไปด้วย ทำให้เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำนานกว่า 3 ชม. จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบในเบื้องต้นพบอาคารเสียหาย 9 คูหา
นายบดินทร์เดช ต้วนเจริญ เจ้าของร้าน 888 เฉิน ค้าส่ง หนึ่งในอาคารที่ถูกไฟไหม้เสียหาย เปิดเผยว่า ช่วงเกิดไฟไหม้ตนอยู่ด้านนอก มีภรรยานอนอยู่ในบ้าน ตอนเกิดเหตุมีคนวิ่งไปเคาะประตูเรียกบอกไฟไหม้ทำให้หนีออกมาได้ทัน ตอนนี้แทบหมดตัว เพราะสินค้าที่เก็บอยู่ในร้านมูลค่านับสิบล้านบาทเสียหายหมด เดือดร้อนมาก เพราะไม่ได้ทำประกันไว้ เนื่องจากเป็นอาคารเช่า ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะมาจากการจุดโคมลอยเทศกาลยี่เป็งและเมื่อคืนที่ผ่านมาที่เป็นคืนลอยกระทงมีคนเห็นโคมลอยตกลงมาใส่บ้าน ประกอบกับลักษณะของไฟไหม้มาจากด้านบนลงมาด้านล่าง
...
ช่วงสายวันเดียวกัน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล นวท. (สบ4) พฐ.จ.เชียงใหม่ และนายกิตติศักดิ์ ปาลี วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น นายอัศนีเผยว่า อาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อยู่ใกล้กับตลาดดอกไม้ ตลาดต้นลำไย และศาลเจ้าปุงเถ่ากง มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าต่างๆหลายร้าน หลังใช้เวลาดับไฟกว่า 3 ชม.
ยังเหลือบางจุดที่ไฟคุกรุ่นอยู่บ้าง ต้องฉีดน้ำเลี้ยงให้แน่ใจว่าไฟดับมอดสนิท ตรวจสอบพบว่าต้นเพลิงอยู่ในร้าน ส.การค้า เป็นอาคารที่อยู่ทางด้านหลัง ใช้ทำเป็นโกดังเก็บสินค้า ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าหมวก ทั้งหมดล้วนเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เหตุไฟไหม้ครั้งนี้มีร้านเสียหาย 9 คูหา รวมพื้นที่ประมาณ 1,400 ตารางเมตร มูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท ไม่รวมความเสียหายของตัวอาคาร
“ขณะนี้สั่งปิดพื้นที่ไม่อนุญาตให้ใช้อาคารและห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปเพื่อความปลอดภัย ต้องรอให้วิศวกรโยธาสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียดเสียก่อน หากไม่สามารถซ่อมแซมได้จะต้องสั่งรื้อถอนตามกฎหมาย” นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวและว่า ส่วนที่มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่าสาเหตุมาจากโคมลอยตกใส่หลังคาบ้าน ตอนนี้ยังยืนยันหรือระบุสาเหตุไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยที่หลายคนอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจที่ต้องสูญเสียทรัพย์สิน
แทบหมดตัว ระหว่างนายนิรัตน์เดินตรวจสอบพื้นที่เสียหาย ปรากฏว่ามีหญิงคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้เข้ามาบอกผู้ว่าฯเชียงใหม่ถึงสาเหตุไฟไหม้ว่า ได้รับทราบจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าสาเหตุมาจากโคมลอยตกใส่หลังคาบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างไม้ ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ก่อนเกิดเหตุยังเอะใจและรู้สึกสังหรณ์ใจแต่แรกแล้ว เพราะในคืนก่อนเกิดเหตุมีคนฝ่าฝืนเล่นโคมลอยกันมากบริเวณริมแม่น้ำปิงและบนสะพานนวรัตน์ทั้งๆที่เป็นเขตห้ามเล่น ห้ามปล่อยโคมลอยทุกชนิด ไม่คิดว่าลางสังหรณ์จะเกิดขึ้นจริงๆ
ด้านนายนิรัตน์เปิดเผยภายหลังตรวจสอบความเสียหายว่า ตอนนี้ต้องกันพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นต้องรอสรุปความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามาจากสาเหตุอะไร ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาสาเหตุโดยละเอียดถึงจะระบุได้ว่ามาจากสาเหตุใด ส่วนเรื่องโคมลอยยืนยันว่าในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ทุกพื้นที่สั่งห้ามปล่อยโคมลอยเด็ดขาด และส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราและตักเตือนห้ามปรามตามจุดที่มีผู้คนออกมาเที่ยวตลอดทั้งคืน เหตุการณ์ครั้งนี้แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดจากโคมลอยหรือไม่ แต่ต้องขอความร่วมมือไม่จุดไม่เล่นโคมลอยดีที่สุด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่