ชาวบ้านในพื้นที่ จัดพิธีบวงสรวงวิญญาณทหาร ที่เสียชีวิตช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 หน้าถ้ำฤาษีสมบัติ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ประจำวันที่ 14 ก.ค.ของทุกปี พร้อมจ้างหนังกางแปลงมาฉายให้วิญญาณเหล่าทหารหาญดู ท่ามกลางบรรยากาศสุดวังเวง มืดสนิท-และเงียบสงัด เจ้าของหนังกางแปลงเผยสุดหลอนกลางดึกคืนหนึ่ง
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าถ้ำฤาษีสมบัติ ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เดินทางมาจัดพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของเหล่าทหาร ที่เสียชีวิตในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งจ้างหนังกลางแปลงมาฉายให้ดวงวิญญาณของเหล่าทหารได้ดูอีกด้วย
โดยก่อนเริ่มการฉาย ชาวบ้านได้ประกอบพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งดวงวิญญาณของเหล่าทหารที่เสียชีวิต ที่ยังวนเวียนอยู่ในบริเวณดังกล่าว ภายหลังทำพิธีขอขมาเสร็จสิ้น ได้เริ่มการฉายหนังกลางแปลง ท่ามกลางบรรยากาศวังเวงและมืดสนิท ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้ โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาร่วมชมตามจุดต่างๆ
...
จากการสอบถาม นายสุเจน พุกอิ่ม อายุ 55 ปี เจ้าของหนังกางแปลง เล่าว่า เมื่อครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เตรียมที่จะย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ขนทองคำและสิ่งของมีค่าของชาติ รวมทั้งพระแก้วมรกตมาไว้ภายในถ้ำแห่งนี้ แต่ต่อมาสภาไม่อนุมัติจึงได้ขนทรัพย์สินต่างๆ กลับไปจนหมด และในระหว่างนั้นได้มีทหารที่มาเฝ้าสมบัติได้เสียชีวิตลงจำนวนมาก เนื่องจากไข้ป่าชุกชุม และเชื่อว่าดวงวิญญาณของทหารเหล่านั้น ยังคงปกปักรักษาถ้ำสมบัติแห่งนี้อยู่ และในทุกๆ วันที่ 14 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ชาวบ้านจะรวมตัวกันมาประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และดวงวิญญาณของทหารเหล่านี้ พร้อมกับว่าจ้างหนังกลางแปลงมาฉายให้ดวงวิญญาณเหล่าทหารดูด้วย โดยจะเน้นหนังเก่ารุ่นสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือไม่ก็เป็นหนังผีและหนังสงครามเป็นหลัก
นายสุเจน เล่าอีกว่า ปีแรกที่นำหนังกลางแปลงมาฉายนั้น ตอนดึกชาวบ้านกลับกันหมดแล้ว เหลือเพียงตนกับลูกน้องอีก 2 คน แต่กลับมีความรู้สึกว่าเหมือนมีคนดูอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้เลย อีกทั้งตนยังได้ยินเสียงเหมือนคนหัวเราะอยู่ด้านหลัง เมื่อมองไปก็ไม่เห็นใคร จึงเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของเหล่าทหารแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน และเมื่อฉายหนังเสร็จแล้ว ทีแรกตนตั้งใจจะนอนค้างคืน เพราะไม่อยากเก็บข้าวของกลางดึก แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจรีบเก็บอุปกรณ์กลับในคืนนั้นทันที ส่วนคืนนี้ตั้งใจที่จะฉายตลอดทั้งคืนจนกว่าจะสว่าง โดยได้พาครอบครัวมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย อีกทั้งได้บอกกล่าวขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง และดวงวิญญาณต่างๆเรียบร้อยแล้ว