ชุดสืบสวน กก.4 บก.ป.จับมือชุดหนุมานกองปราบฯ ลุยค้น 21 จุด ทั่วประเทศ ทลายแก๊งหลอกดาวน์รถป้ายแดงส่งขายประเทศเมียนมา 2 เครือข่ายใหญ่ รวบ “เจ๊รัตน์ แม่สอด” และ “เฮียตี๋” 2 หัวหน้าเครือข่ายคาบ้าน พร้อมสมุนตามหมายจับรวม 20 คน ยึดของกลางรถยนต์ 4 คัน รถ จยย. 14 คัน ปืน 9 กระบอก และเอกสารเช่าซื้อรถจำนวนมาก แฉกลโกงจ้างวานชาวบ้านหอบเงิน 2-3 แสนบาทไปดาวน์รถ หลังจากนั้นส่งขายให้นายทุนประเทศเพื่อนบ้านราคาถูกกว่าราคาจริงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แถมบางครั้งยังให้สมุนไปเช่ารถใหม่ตามเต็นท์แล้วเชิดไปขายหน้าด้านๆ แต่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ

กองปราบปรามลุยล้างแก๊งดาวน์รถส่งขายประเทศเพื่อนบ้านรายใหญ่ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 ก.ค. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือ ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 21 จุดทั่วประเทศใน 12 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ตาก จ.สุโขทัย จ.กำแพงเพชร จ.พิษณุโลก จ.ภูเก็ต จ.อุบลราชธานี จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร

เป้าหมายเพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาจำนวน 23 คน เป็นผู้ร่วมขบวนการดาวน์รถยนต์และรถ จยย.ใหม่ป้ายแดง แล้วนำส่งไปขายยังประเทศเมียนมา 2 เครือข่ายใหญ่ ตรวจยึดของกลางรถยนต์ 4 คัน รถ จยย. 14 คัน อาวุธปืน 9 กระบอก ป้ายทะเบียนรถยนต์และรถ จยย.จำนวน 23 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 13 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม หนังสือเดินทาง 2 เล่ม เงินสดประมาณ 1.5 ล้านบาท และเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการดาวน์รถยนต์และรถ จยย.จำนวนมาก

...

จุดสำคัญอยู่ที่บ้านเลขที่ 517 หมู่ 6 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก บ้านของนางรัตนาภรณ์ ภูผากัมปนาท หรือ“เจ๊รัตน์ แม่สอด” อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2081/66 ลงวันที่ 3 ก.ค.66 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร หลังพบหลักฐานความเชื่อมโยงว่าเป็นนายทุนว่าจ้างให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนเงินไปติดต่อดาวน์รถยนต์ป้ายแดงตามศูนย์ขายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ใช้เงินดาวน์รถประมาณ 2-3 แสนบาท ก่อนนำรถส่งข้ามแดนไปขายให้นายทุนรายใหญ่ฝั่งประเทศเมียนมา ด้วยราคาถูกกว่าราคารถจริงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบเป็นบ้านเดี่ยวในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่รั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่เรียกนางรัตนาภรณ์ออกมาหน้าบ้าน ก่อนแสดงหมายจับกุมแจ้งข้อกล่าวหา หลังจากนั้นคุมตัวเข้าไปตรวจค้นหาหลักฐานภายในบ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา กล่าวว่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มมิจฉาชีพทำทีติดต่อดาวน์รถยนต์ป้ายแดงตามโชว์รูมรถยนต์ หรือไปติดต่อเช่ารถใหม่ตามเต็นท์รถเช่าต่างๆ ก่อนเชิดหนีส่งข้ามแดนไปขายยังประเทศเมียนมา สร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการและเจ้าของรถเช่าเป็นอย่างมาก จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสจนทราบว่าทำกันเป็นขบวนการ มีนายหน้าจัดหาคนดาวน์รถยนต์ คนโอนเงินค่าดำเนินการดาวน์รถ นายหน้าโอนเงินค่าดำเนินการ นำรถยนต์ที่ได้จากการดาวน์รถส่งข้ามแดนไปขายให้นายทุนใหญ่ประเทศเพื่อนบ้าน

“พฤติการณ์จะเริ่มจากว่าจ้างชาวบ้านที่ต้องการใช้เงิน ไปติดต่อดาวน์รถยนต์ออกใหม่ป้ายแดงตามศูนย์รถยนต์ต่างๆ เมื่อได้รถมาแล้วจะนำรถส่งต่อไปยังพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อขายต่อให้นายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอีกทอดหนึ่งทันที จึงเร่งสืบสวนสอบสวนก่อนพบว่า มีด้วยกัน 2 เครือข่ายใหญ่ได้แก่ เครือข่ายของเจ๊รัตน์ แม่สอด และเครือข่ายของเฮียตี๋ ก่อนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 23 หมายจับ ตรวจค้น 21 เป้าหมายใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ” ผกก.4 บก.ป.กล่าว

พ.ต.อ.เอกสิทธิ์กล่าวด้วยว่า จากปฏิบัติการถึงขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 20 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาระดับตัวการใหญ่ 4 คน ประกอบด้วย นางรัตนาภรณ์ ภูผากัมปนาท หรือเจ๊รัตน์ แม่สอด นายจตุพล ไชยคำ หรือเฮียตี๋ อายุ 42 ปี นายชาตรี ทองคำ อายุ 40 ปี และนายทรงพล ดวงสอาด อายุ 43 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์ รถ จยย. แผ่นป้ายทะเบียน เอกสารการครอบครองรถ และเอกสารอื่นๆอีกจำนวนมาก หลังจากนี้จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 20 คนพร้อมของกลางทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.ดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คนอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป