เอกอัคราชทูตเกาหลีใต้ และคณะ เป็นเจ้าภาพสวดศพครูแบมคืนสุดท้าย พร้อมมอบเงินส่วนตัวกว่า 1 แสนให้พ่อแม่ครูแบม เผยสถานทูตไทยในกรุงโซลได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลเกาหลีใต้แล้วกว่า 8 แสนอยู่ระหว่างทำธุรกรรมทางการเงิน รออีกไม่เกิน 3 วันทำการ จะโอนเข้าบัญชีแม่ครูแบม


วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 เวลา 19.30 น. ที่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 9 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้มีการจัดงานสวดอภิธรรมศพให้กับน.ส.นัฐธิชา มาแก้ว หรือครูแบม อายุ 27 ปี ครูสาวสอนภาษาเกาหลีชาวหล่มสัก ที่ประสบเหตุเสียชีวิตในโศกนาฏกรรม “อิแทวอน” ประเทศเกาหลีใต้เป็นคืนสุดท้ายท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านร่วมอาลัยมากกว่า 400 คน

โดยในคืนนี้มี ฯพณฯ มุน ซึง-ฮย็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทยพร้อมคณะร่วมเป็นเจ้าภาพสวดศพประกอบด้วย 1.ฯพณฯ มุน ซึง-ฮย็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทย 2.นายจอน ยงซาง นายกสมาคมชาวเกาหลีในประเทศไทย 3.ดร.ปาร์ค ซองฮี กงสุลใหญ่ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย 4.นายโซ แจอิล ผอ.ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย 5.นายลี ฮยองแบ นายกสมาคมทหารผ่านศึกเกาหลีในประเทศไทย 6.นายคิม จงมิน นายกหอการค้าเกาหลี-ไทย 7.นายคิม ดงอุค ผอ.ศูนย์การศึกษาเกาหลีประจำประเทศไทย 8.นางลี คยองจิน เจ้าของร้านอาหารทงแดมุน โดยเงินส่วนตัวของคณะที่ได้ช่วยเหลือทั้งหมดประมาณหนึ่งแสนบาทเศษให้กับนายสาคร มาแก้ว และนางหนา มาแก้ว บิดาและมารดาของครูแบมไว้ใช้จ่ายในงานศพ นอกจากนี้ ผศ.กนกกุล มาเวียง อาจารย์สอนภาษาเกาหลีใต้ประจำมหาวิทยาลัยสารคามและผู้ก่อตั้งสาขาภาษาเกาหลีมหาวิทยาลัยสารคาม เป็นตัวแทนคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสารคามเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพอีกหนึ่งคณะ

...

ฯพณฯ มุน ซึง-ฮย็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทยได้เข้าจับมือนายสาครและนางหนาด้วยท่าทางสุภาพอ่อนน้อมพร้อมกล่าวแสดงความเสียใจด้วยท่าทางและใบหน้าที่รู้สึกเศร้าสลดเสียใจอย่างสุดซึ้งและรู้สึกรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภาษาเกาหลีใต้ โดยให้ล่ามคนไทยแปลให้ฟังใจความได้ว่า “ผมจะช่วยเหลืองานศพครูแบมให้อย่างเรียบร้อยที่สุด และให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะช่วยได้ ผมอาจจะไม่เคยสูญเสียอย่างมากเท่านี้มาก่อน จึงไม่สามารถที่จะพูดได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าหัวอกของคนเป็นพ่อแม่มีความรู้สึกเสียใจมากมายเพียงใด แต่ผมก็เข้าใจว่าจะต้องเจ็บปวดหัวใจอย่างแสนสาหัสเป็นอย่างมาก ผมได้มายืนดูรูปน้องแบมอยู่สักพักใหญ่ ก็มีความรู้สึกที่เจ็บปวดหัวใจอย่างมากที่สุดเหมือนกัน เข้าใจเป็นอย่างยิ่งกับความรู้สึกที่จะต้องสูญเสียและจากไป ผมอยากเป็นกำลังใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ ยังไงผมก็จะไปร่วมฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน ผมขอเป็นตัวแทนของรัฐบาลเกาหลีและเป็นตัวแทนของประชาชนชาวเกาหลีใต้ในการแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งด้วยครับ” พร้อมจับมือนายสาครและนางหนาเพื่อแสดงความเสียใจตามวัฒนธรรมของชาวเกาหลีใต้

นอกจากนี้ ท่านทูตฯ ยังได้ไปกล่าวแสดงความเสียใจกับญาติของครูแบมอีกด้วยว่า “พ่อแม่และญาติคงจะไม่ทันได้ตั้งตัวและต้องสาละวนกับการจัดงานที่ต้องเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก ผมรู้สึกซาบซึ้งกับญาติๆ ที่คอยช่วยตระเตรียมกระบวนการทุกอย่าง ทั้งคอยช่วยประสานงานกับทางสถานทูตและรัฐบาลเกาหลีรวมถึงหน่วยงานต่างๆ ของประเทศเกาหลีเป็นอย่างดี ทั้งต้องเหน็ดเหนื่อยเดินทางไปดูแลการจัดการศพอีกด้วยและทุกๆ ท่านก็คงจะเหนื่อยมากๆ ผมก็ขอขอบคุณญาติๆ ทุกท่านเป็นอย่างมาก และขอฝากช่วยดูแลพ่อแม่ครูแบมรวมถึงดูแลจิตใจพ่อและแม่ให้ด้วยครับ” จากนั้นจึงได้ไปร่วมถ่ายรูปภาพด้านหน้าศพร่วมกับบิดาและมารดาของครูแบม

ทางด้าน เจ้าหน้าที่จากสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่าสถานทูตไทยในกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลประเทศเกาหลีแล้วเป็นจำนวนเงิน 800,000 บาทเศษ และยังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ โดยอาจต้องรออีกไม่เกิน 3 วันทำการ เงินเยียวยาจำนวนดังกล่าวก็จะถูกโอนเข้าบัญชีของนางหนา มาแก้วมารดาของครูแบม ส่วนงานวันนี้ท่านทูตไม่ประสงค์ให้มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจนำขบวน ต้องการเดินทางอย่างเรียบง่ายเพียงให้พามาส่งให้ถึงบ้านของครูแบมเท่านั้น.