ป้าร้องสื่อ หลานสาว 17 ถูก นร.ชายบุกข่มขืนต่อหน้าเพื่อนกว่า 30 คนและขู่ทำร้ายบนหอ นร.หญิงของโรงเรียนที่เพชรบูรณ์ แล้ว รอง ผอ. ปัดให้เป็นการสมยอมกัน แจ้งความ ตร.นัดสหวิชาชีพสอบปากคำ 27 ก.ย.65
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 65 นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ชาวบ้าน อ.เมืองเลย จ.เลย ร้องเรียนต่อสื่อว่า นางสาวฟ้า (นามสมมติ) อายุ 17 ปี หลานสาว เรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ถูกนักเรียนชายในโรงเรียนขึ้นมาที่หอกักตัวเด็กหญิงที่ติดโควิด-19 แล้วบังคับข่มขืนหลานสาว ต่อหน้าเพื่อนนักเรียนกว่า 30 คน เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 เวลา 23.00 น. ทางโรงเรียนขอให้ปิดข่าวกลัวจะเสียชื่อเสียง จึงได้ร้องไปที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา จะขอตรวจสอบ จนถึงวันนี้ยังไม่ทราบเรื่อง จึงร้องเรียนมาทางสื่อให้ช่วย
นางสาวเอ (ป้า) เล่าว่า ทางโรงเรียนแจ้งให้ทราบว่า หลานสาวมีเรื่องชู้สาวในหอพัก ให้ผู้ปกครองมาพบ จึงเดินทางไปพบเพื่อขอข้อมูล แต่ทางรอง ผอ. และครูฝ่ายปกครอง บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสมยอมของเด็กนักเรียนที่นัดเพื่อนชาย โดยทางโรงเรียนสรุปว่าเป็นการสมยอมกัน ทำผิดกฎโรงเรียนจะให้ออก แต่กลัวเด็กเสียอนาคต จึงให้โอกาสเด็กเรียนต่อ โดยยื่นขอเสนอให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้ทางโรงเรียนฉีดยาคุมไว้ จากนั้นพยายามจะเอาหลานกลับบ้าน แต่ทางโรงเรียนไม่ยินยอมอ้างว่าเด็กกำลังใกล้สอบ สุดท้ายสามารถเอาหลานกลับมาบ้านได้ และร้องไปทางมูลนิธิปวีณา และกระทรวงศึกษาธิการ แต่สุดท้ายไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวงฯ จนเข้าแจ้งความต่อ พงส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 65 เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กในวันที่ 27 ก.ย. 65
นางสาวฟ้า กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 ประมาณเกือบเที่ยงคืน มีนักเรียนชาย 4 คน ขึ้นมาที่หอพักกักตัวเด็กนักเรียนหญิงที่ติดโควิด-19 กว่า 30 คน แล้วไปนอนกับนักเรียนหญิง 4 คน ต่อหน้าเพื่อนในห้องกว่า 30 คน จากนั้นมาวันที่ 24 ส.ค. 65 เวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่นอนอยู่นั้น เห็นมีนักเรียนชายกลุ่มเดิม มาด้วยกัน 6 คน มานอนกับนักเรียนหญิง 5 คน เหลือคนที่ 6 มาทราบชื่อภายหลัง ชื่อนายบุญหลาย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เข้ามาบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ต่อหน้าเพื่อนกว่า 30 คน จากนั้นหลังเสร็จแล้วพร้อมด้วยเพื่อนอีก 5 คน ได้ออกจากหอพักไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนนักเรียนหญิงในห้อง ที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าร้องโวยวาย เพราะโดนกลุ่มผู้ก่อเหตุข่มขู่ ไม่ให้ยุ่ง ไม่งั้นจะตามมาเล่นงาน จากนั้นครูเรียกไปสอบถาม และบังคับให้บอกกับผู้ปกครองว่าเป็นการสมยอม
...
ขณะที่ พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณี หลังรับแจ้งความแล้วก็ได้นำตัวนักเรียนหญิงส่งให้แพทย์โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ตรวจร่างกาย โดยผลตรวจยังอยู่ระหว่างรอแพทย์แจ้งผลกลับ ส่วนการดำเนินคดีนั้นเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้ เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชนจึงต้องมีการสอบปากคำจากสหวิชาชีพ ซึ่งได้มีการนัดผู้เสียหายพร้อมญาติ เข้ามาสอบปากคำในวันจันทร์ที่ 27 กันยายนนี้ และหากผลตรวจยืนยันครบถ้วนแล้ว ก็จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับเยาวชนชายที่ก่อเหตุได้
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามโรงเรียนต้นสังกัดแล้ว แต่ติดต่อผู้อำนวยการไม่ได้ และได้ให้เบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อกลับแต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับมาชี้แจงแต่อย่างใด.